ไม่พบผลการค้นหา
วงเสวนา '365 วัน รัฐสวัสดิการไทย ถดถอยหรือก้าวหน้า' นักวิชาการ แนะรัฐเร่งเสนอแผนจัดสรรงบประมาณและสวัสดิการสังคมในภาพรวมระยะ 6 ปี ชี้สวัสดิการของรัฐไทยแทบไม่คืบหน้า ขณะ 'อภิสิทธิ์' แนะปรับทัศนคติผู้นำเป็นเรื่องสำคัญ

นายเดชรัต สุขกำเนิด นักวิชาการอิสระ นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี อาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมรายงานผลการสำรวจความเห็น ผลงานด้านสวัสดิการสังคมของรัฐบาลและ วิเคราะห์นโยบายสวัสดิการสังคมของรัฐบาล ในงานเสวนา 365 วัน รัฐสวัสดิการไทย ถดถอยหรือก้าวหน้า

โดยนายเดชรัต กล่าวว่า จากการสำรวจ 660 คน สิ่งที่ผู้ตอบแบบสอบถามอยากเห็นในรอบปีหน้าคือ 1. ระบบหลักประกันสุขภาพที่มีคุณภาพการบริการทัดเทียมกัน

2. การศึกษาฟรีแบบถ้วนหน้า จนถึงระดับปริญญาตรี 3. การเปลี่ยนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ให้ป็นระบบบำนาญแห่งชาติแบบถ้วนหน (3,000 บาท/เดือน) การออกพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน และการดูแลค่าจ้างขั้นต่ำ 5. สวัสดิการของเด็กเล็ก 0-6 ปี แบบถ้วนหน้า 600 บาท/เดือน ดังนั้น รัฐบาลควรเสนอแผนการจัดสรรงบประมาณและสวัสดิการสังคมในภาพรวมระยะ 6 ปี (พ.ศ. 2564-2570)

สวัสดิการของรัฐในประเทศไทยแทบจะไม่คืบหน้า

ด้าน นายษัษฐรัมย์ กล่าวว่า จาการสำรวจของนายเดชรัต จะเห็นว่าสวัสดิการของรัฐในประเทศไทยแทบจะไม่คืบหน้า ปัญหาที่ประชาชนกำลังเผชิญอยู่ คือ ความไม่มั่นคงทางศรษฐกิจ , การไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ , การขาดเสรีภาพทางการเมืองและการเสดงออก , การไม่สามารถเลื่อนลำดับชั้นทางสังคมได้ จากผลสำรวจ ก็สะท้อนถึงความผิดหวังของประชาชน ทำให้เห็นตัวชี้วัดที่ต่ำ และปัญหาข้างต้น ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในทุกๆด้าน และไม่มีการแก้ไขในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือภาวะความเสี่ยง การขยายตัวของกลุ่มแรงงานที่ไม่มีสัญญาจ้าง , การล่มสลายของชนชั้นกลาง อย่างนักศึกษาที่จบใหม่จะตกงาน , กลุ่มทุนขนาดใหญ่จะผูกขาดมากขึ้น และประชาชนก็จะถูกจัดลำดับชั้นเหมือนเดิม 

อย่างไรก็ตาม หากพรรคการเมืองที่สัญญาในเรื่องของนโยบายการก้าวหน้า ก็ต้องทำให้ได้ ประชาชนต้องกดดันให้พรรคการเมืองขับเคลื่อนนโยบายไปข้างหน้าให้ได้ และที่ผ่านมาพรรคการเมืองก็ยังไม่มีความพยายามมากพอที่จะขับเคลื่อนนโยบายที่ได้หาเสียงเอาไว้

Gallery 365 วัน รัฐสวัสดการไทย(2 จบเซสชั่น1)_๒๐๐๗๑๑_2.jpg

อดีตหัวหน้า ปชป. แนะปรับทัศนะคติผู้นำเป็นเรื่องสำคัญ

ด้าน นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย และการเข้ามาของเทคโนโลยีที่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเกิดการเหลื่อมล้ำค่อนข้างสูง ระบบสวัสดิการที่จะเกิดขึ้นได้ ถ้าประชาชนช่วยกันเรียกร้องกดดัน ก็จะเป็นพลังที่มีความสำคัญมาก แต่นโยบายต่างๆก็ต้องมีกระบวนการการทางเมืองเป็นเรื่องสำคัญ ที่ผ่านมาในสมัยพรรคไทยรักไทย และสมัยตนเองที่มีนโยบายหลักๆออกมาก็เพราะมีแนวความคิดและให้ความสำคัญกับหลักสวัสดิการรัฐ และปัญหาที่ผ่านมา 5+1 ปีเกิดขึ้นเพราะอะไร คือผู้นำทางการเมืองคิดเห็นอย่างไรในเรื่องสวัสดิการ หากแนวคิดไม่เกิด นโยบายเหล่านี้ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ถึงแม้ฝ่ายค้านจะเสนอเข้ามามากเท่าไหร่ ถ้าหากรัฐบาลไม่เล่นด้วยก็ไม่สามารถดำเนินการได้ 

Gallery 365 วัน รัฐสวัสดการไทย(2 จบเซสชั่น1)_๒๐๐๗๑๑_0.jpg

นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า การที่ตนไม่สนันสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะตนเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธไม่สนับสนุนเรื่องสวัสดิการรัฐ เพราะเมื่อมีการถามเรื่องเหล่านี้กับพล.อ.ประยุทธ์ก็จะตอบกลับมาว่า "จะเอาเงินมาจากไหน" จึงไม่แปลกใจว่าทำไมวันนี้ประชาชนต้องคิดว่าจะผลักดันเรื่องนี้ต่ออย่างไร หากผู้นำไม่คิดจะทำสวัสดิการให้คืบหน้า ก็จะเห็นนโยบายการเยียวยาเกิดขึ้น 

ดังนั้น จากนี้ไปคำถามคิดจะผลักดันอะไร ประเด็นที่ต้องคิดมีอะไรบ้าง ปัญหาเรื่องทัศนะคติการขับเคลื่อนของภาครัฐที่ไม่เห็นด้วยการสวัสดิการ ซึ่งต้องปรับทัศนะคติของผู้นำเป็นเรื่องสำคัญ และจะต้องทำระบบภาษีให้เอื้อกับระบบสวัสดิการของรัฐมากขึ้น ถ้าฉลาดรัฐต้องเอาข้อมูลที่เก็บมาจากประชาชนจำนวนมากนี้ไปทำสวัสดิการถ้วนหน้าได้