ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรีโชว์วิสัยทัศน์เจ้าภาพอาเชียน แจงผู้นำธุรกิจอาเซียน เป็นนายกฯสมัยที่ 2 พร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่เรียบร้อย เรื่องใดไม่สำคัญก็จะไม่ตอบ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถา ในการประชุมผู้นำธุรกิจอาเซียน (ASEAN BUSINESS SUMMIT) ครั้งที่ 5 ในหัวข้อ The Future of Thailand and ASEAN ซึ่งเป็นการกล่าวปาฐกถาครั้งแรกกับนักธุรกิจต่างประเทศ หลังจัดการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา และได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงวิสัยทัศน์สำหรับประเทศไทย ว่ามีความพร้อมในหลายด้าน พร้อมจะเดินหน้าไปพร้อมกับภูมิภาค ซึ่งปัจจุบัน ไทยมีเสถียรภาพ ก้าวพ้นสถานการณ์ความไม่สงบ มีความปรองดอง และสามารถแก้ปัญหาคั่งค้างที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ เช่น การประมงผิดกฎหมาย การปราบปรามการค้ามนุษย์ และที่สำคัญต่อประชาชนชาวไทยมากก็คือ การที่ได้ผ่านพ้นการเลือกตั้งทั่วไปตามกระบวนการประชาธิปไตยด้วยความเรียบร้อย เป็นไปตาม roadmap ที่กำหนด ซึ่งช่วยให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้

ตนยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อ และจะพยายามปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อสืบสานนโยบายพัฒนาประเทศ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

อาเซียน-ธุรกิจ-เจ้าภาพ-ประยุทธ์
  • นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาในงาน ASEAN BUSINESS SUMMIT จัดโดย Bloomberg

นายกรัฐมนตรี ยืนยันจะพยายามปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อสานต่อนโยบาย โดยในปี 2561 ดัชนีเศรษฐกิจไทย บ่งชี้ว่าสถานการณ์ในประเทศดีขึ้น เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 4.1 สูงสุดในรอบ 6 ปี มูลค่าส่งออกระดับ 2.53 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงเป็นประวัติการณ์ และการลงทุนรวมขยายตัวร้อยละ 3.8 สูงที่สูดในรอบ 6 ปี เช่นกัน 

ด้านการท่องเที่ยว ปี 2561 เพิ่มขึ้น 2.9 ล้านคน ตั้งเป้าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศ 40 ล้านคน ซึ่งจะเป็นแหล่งรายได้สำคัญ

ขณะเดียวกัน มีเงินสำรองในประเทศสูงเป็นอันดับ 12 ของโลก ขณะที่ขั้นตอนการอนุญาตกฎระเบียบในการทำธุรกิจ มีการแก้ไขให้ได้รับความสะดวกในอันดับต้นของโลกและเป็นอันดับ 3 ในอาเซียน และมีการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม รองรับอุตสาหกรรมใหม่ ผ่านเขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก หรือ EEC ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจอาเซียน และมีนโยบายพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่องและมีการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งเป็นกรอบในการพัฒนาประเทศ นำพาประเทศชาติมั่นคงประชาชนมีความสุข รวมถึงแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ขณะเดียวกันมีการเตรียมความพร้อมรองรับ ปัญญาประดิษฐ์ หรือระบบ AI ทำงานแทนคน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าโลกปัจจุบัน ต้องเผชิญกับความท้าทายเศรษฐกิจและการค้าโลก ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของประชาชนทุกระดับ ภายใต้ความท้าทายเหล่านี้ ไทยและอาเซียนมีความพร้อมที่จะรับมือ เพราะเป็นตลาดขนาดใหญ่ของโลก เพราะมีประชากรมากกว่า 650 ล้านคน และเป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ซึ่งมูลค่า GDP ของอาเซียน เท่ากับ 2.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ  มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 5.3 มูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศเท่ากับ 1.37 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นการเติบโตร้อยละ 11.6 และนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนภูมิภาคนี้ถึง 125.5 ล้านคน ซึ่งไทยถือเป็นที่หมายที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ

นอกจากนี้ อาเซียนยังมีกลไกความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเชื่อมโยงจุดแข็งที่หลากหลาย ที่สำคัญคือ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP ระหว่าง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน และอีก 6 ประเทศคู่เจรจา (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ โดย RCEP จะเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก คือ GDP รวมกันเท่ากับหนึ่งในสามของ GDP โลก เป็นโอกาสให้อาเซียนสามารถเติบโตภายในได้อีกมาก

อาเซียน-ธุรกิจ-นักธุรกิจ-ไทยเจ้าภาพ
  • นักธุรกิจจากทั้งอาเซียนและต่างประเทศเข้าร่วมฟังปาฐกถาที่จัดขึ้น 21 มิ.ย.2562

ดังนั้น ในการรับหน้าที่ประธานอาเซียนปีนี้ ไทยได้เสนอหลักคิดหลัก คือ “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน”และมีเป้าหมายขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 3 ด้าน คือ 

  • เตรียมความพร้อมสู่ความพร้อมปฎิวัติอุตสาหกรรม
  • ส่งเสริมความเชื่อมโยงทางการค้าการลงทุน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์จุดเดียวของอาเซียนครบ 10 ประเทศ
  • สร้างความยั่งยืนในทุกมิติเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ ให้ประชาชนอยู่ดีกินดีตลอดจนเชื่อมโยงระบบชำระเงินและธุรกรรมในสกุลท้องถิ่นเพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ผ่านความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดกับทั้งมิตรประเทศและประชาคมระหว่างประเทศ

ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน จะต้องพัฒนาความร่วมมือภายใต้วิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่อนาคตมากขึ้น เพื่อให้พร้อมที่จะเชื่อมโยงระหว่างกันภายในประชาคมและกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคมากขึ้น ให้เป็นอาเซียนที่ไร้รอยต่อ ขับเคลื่อนประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง

โดยหลังการประชุมสุดยอดอาเซียนไทย (ASEAN SUMMIT) ตนจะเข้าประชุมผู้นำ G20 ที่ญี่ปุ่นโดยจะเน้นหลักการสำคัญในฐานะประธานอาเซียนสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างเสรีเปิดกว้างครอบคลุมยั่งยืนไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียังบอกกล่าวทิ้งท้ายกับนักธุรกิจที่เข้าฟังปาฐกถาว่า วันนี้อยากพูดหลายเรื่องเพราะไม่ได้พูดมาหลายวัน แต่ต่อจากนี้ไปพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่จะเรียบร้อย เรื่องใดไม่สำคัญก็จะไม่ตอบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :