การเมือง
'ชวน' เชื่อไม่ถึงทางตันปม ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน เบรกออก พ.ร.ก.แทน พ.ร.บ.งบฯ
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุในระหว่างเป็นวิทยากรหลักสูตรนักบริหารนักการเมืองและเศรษฐกิจรุ่นใหม่รับใช้สังคม จัดโดย คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ที่โรงแรมสุโกศล ถนนศรีอยุธยา ตอนหนึ่งโดยหยิบยกหลักธรรมาภิบาล โดยเฉพาะข้าราชการที่แสดงความเกรงใจต่อฝ่ายการเมือง และยินยอมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บัญชาไปในทางที่ผิด ยอมรับความเสี่ยงในทางกฏหมายกับสิ่งที่จะได้ตอบแทน ซึ่งท้ายที่สุดทั้งข้าราชและฝ่ายการเมืองก็จะถูกดำเนินคดี ดังหลายกรณีทีเกิดขึ้นอดีต ส่วนความเกรงใจเป็นเรื่องดีแต่เมื่อ ไปเกรงใจในสิ่งที่ผิด นอกจากตนเองที่จะมีปัญหา สังคมก็จะมีปัญหา ตามไปด้วย เมื่อพูดถึงนักการเมืองก็เช่นเดียวกัน ประชาธิปไตยก็ต้องเป็นประชาธิปไตยสุจริต ต้องคิดถึงความสุจริตในการทำหน้าที่มิเช่นนั้นจะไม่มีความยั่งยืน
นายชวน กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือการนำพระบรมราโชวาท มาปฏิบัติ ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติ ที่ถูกกลั่นกรองมาอย่างดี จึงมีความหมายที่สามารถนำไปใช้ ได้จริง เช่น ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อยจึงมิใช้การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมความดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้
นอกจากนี้ นายชวน แสดงความเชื่อมั่นว่า ศาลยังสามารถพึ่งพาได้ แต่เมื่อผู้ถูกดำเนินคดี พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงคดี จึงได้เสนอแลกเปลี่ยนผลประโยชน์และผลลัพธ์ของคดี ออกมาไม่เป็นไปตามที่ต้องการ ก็ด่าทอศาล วิพากษ์วิจารณ์ศาล
นายชวน กล่าวถึงการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่มีหลักการแบ่งแยกอำนาจ ตรวจสอบถ่วงดุล โดยฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ควบคุมฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ผ่านกรรมาธิการ ผ่านการตั้งกระทู้ หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมถึงญัตติด่วนในการดูแลประชาชน พร้อมย้ำถึงการบริหารเวลาให้เป็นเพื่อไม่ให้เสียงานหลักคือการทำหน้าในสภา โดยยกตัวอย่างกรณีการเสียบบัตรแทนกัน ที่สะท้อนถึงถึงการบริหารเวลาที่บกพร่อง
ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังระบุว่า การบริหารราชการแผ่นดิน นักการเมืองจะต้องไม่เลือกปฏิบัติกับประชาชน โดยเฉพาะกับคนที่เห็นต่างหรือไม่ได้เลือกรัฐบาลนั้นมา เป็นดังกล่าวจะส่งผลต่อการสร้างความสมานฉันท์ปรองดองของคนในชาติ พร้อมเสนอให้ใช้หลักนิติธรรมและหลักกฎหมายเพื่อเป็นทางออก
จากนั้นนายชวน ให้สัมภาษณ์ถึง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เสียบบัตรแทนกันในการประชุมสภาฯ พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 โดยยืนยันจะต้องตรวจสอบทุกกรณี ทั้งนี้ กรณีที่ผ่านมาก็ได้ยื่นเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ซึ่งเป็นปัญหาที่เจ้าตัวไม่ได้อยู่ในห้องประชุม แต่ได้ฝากบัตรไว้กับคนอื่นเสียบแทน ย้ำว่าทั้งหมดจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่โดยหลักแล้วจะต้องกดบัตรเพื่อแสดงตน ด้วยตนเองทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องยอมรับข้อจำกัดถึงเรื่องที่นั่งด้วยเช่นกัน รวมถึงที่เสียบบัตรที่มีไม่เพียงพอ พร้อมเห็นว่าปัญหาในลักษณะนี้จะน้อยลง เมื่อย้ายห้องประชุมที่มีความพร้อมในสมัยต่อไป ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้จะเป็นบทเรียนที่ดีให้กับทุกคนได้ระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น
ส่วนกรณีที่มีแนวคิดจะออก พ.ร.ก.มาใช้แทน พ.ร.บ.งบประมาณ นายชวน มองว่า ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น เพราะเมื่อเกิดปัญหาก็ต้องแก้ปัญหาไปก่อน เชื่อว่ายังไม่ถึงทางตัน แม้อาจจะช้าไปบ้าง เพราะต้องแก้ปัญหาไปตามกฎหมาย ที่เปิดโอกาสให้ทำได้ ทั้งนี้ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
