ไม่พบผลการค้นหา
'ประธานรัฐสภา' เปิดประชุม AIPA ครั้งที่ 40 ห่วงการเปลี่ยนแปลงทั้ง 'สภาพภูมิอากาศ-ลัทธิหัวรุนแรง-คอรัปชั่น' แนะ 4 บทเรียนพึงระลึกชูธงยึด 'นิติรัฐ-นิติธรรม' เล่าประชาธิปไตยยังไม่ยุติธรรมฝ่ายเห็นต่างทางการเมืองถูกเลือกปฏิบัติ ขออาสาถ่วงดุลฝ่ายบริหาร

ในการจัดประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน(AIPA) ครั้งที่ 40 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพโดยนายชวนหลีกภัยประธานรัฐสภาในฐานะประธาน AIPA กล่าวเปิดการประชุมว่าประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมไอป้าเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาซึ่งตลอดระยะเวลามีปัญหาใหม่เกิดขึ้นและมีปัญหาเก่าที่เข้ามาท้าทายทุกประเทศในอาเซียนซึ่งหลายปัญหาในประเทศล้วนสร้างผลกระทบระหว่างกัน เช่น ปัญหายาเสพติดที่มีการส่งต่อจากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่งขยะทะเลที่ทิ้งจากประเทศหนึ่งซากขยะดังกล่าวก็ไปขึ้นฝั่งอีกประเทศหนึ่ง เพราะเราต่างอยู่ในทะเลเดียวกันดังนั้นหลายเรื่องต้องใช้กระบวนการทางกฏหมายและกระบวนการตามนิติบัญญัติเพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในทางกฏหมาย 

ทั้งนี้ นายชวน ได้ขออนุญาตนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อสมาชิกอาเซียนเป็นภาษาอังกฤษเพราะที่ประชุมนี้ใช้ภาษาอังกฤษในการประชุมใจความว่าการยืนอยู่ใต้ธงผืนเดียวกันมาได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้คือบทพิสูจน์ถึงความใฝ่ฝันที่เรามีเหมือนกันประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่าเราแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากเมื่ออยู่ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นคงของเราเศรษฐกิจของเราหรือความเท่าเทียมทางสังคมของเราซึ่งประวัติศาสตร์ยังคงถูกเขียนขึ้นอยู่ตลอดเวลาและเราต้องระมัดระวังด้วยเกรงว่าเราจะถูกกลืนหายไป

ในกระแสของการเปลี่ยนแปลงการเกิดขึ้นของลัทธิหัวรุนแรงภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศภัยพิบัติจากการอพยพและสภาวะเสื่อมโทรมจากการคอรัปชั่นได้เตือนพวกเราว่าโลกยังไม่หยุดหมุนและถึงแม้เราจะดิ้นรนที่จะอยู่รอดความท้าทายใหม่ก็คุกคามที่จะบั่นทอนความสำเร็จของเราในช่วงเวลาที่สับสนวุ่นวายนี้ก็จะเกิดความอยากที่จะใช้การแก้ไขปัญหาแบบเร่งด่วนแต่ก็ไม่สามารถจะแก้ปัญหาที่แท้จริงได้โดยการทำเช่นนั้นเราจะไม่ประสบความสำเร็จใดๆ นอกจากทำให้สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ยิ่งล่าช้าซึ่งเมื่อเกิดขึ้นก็จะทับถมในระดับสูงสุดบนความยากจนที่สุดความอ่อนแอที่สุดและความเสี่ยงที่สุดของเรา

นายชวน กล่าวต่อว่า นั่นคือสาเหตุว่าหัวข้อของการประชุมใหญ่ฯ ในปีนี้คือนิติบัญญัติร่วมมือร่วมใจก้าวไกลเพื่อประชาคมที่ยั่งยืนในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติของอาเซียนเราเป็นหน่วยงานการปกครองที่ใกล้ชิดกับประชาชนของเรามากที่สุดและอยู่ในตำแหน่งเฉพาะตัว ที่จะเห็นสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาที่เกิดกับประชาชนเหล่านั้นด้วยการฟังเสียงของประชาชนบอกเล่าเราสามารถจะจัดการกับต้นเหตุที่แท้จริงและทำให้ประชาชนมั่นใจถึงความยั่งยืนของการกินดีอยู่ดีเชื่อว่ามีสี่บทเรียนที่สำคัญที่ต้องระลึกไว้

บทเรียนแรกคือเราต้องจัดลำดับความสำคัญมักจะมีอะไรให้เราทำเกินกว่าที่ความสามารถของเราจะทำได้เสมอในฐานะนักนิติบัญญัติก็ขึ้นอยู่กับเราที่จะตัดสินใจว่าปัญหาไหนของประชาชนต้องอยู่ในลำดับต้นๆ ดังนั้นเราต้องแน่ใจว่าทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดของเราจะเกิดประโยชน์มากที่สุดสำหรับมวลชน

บทเรียนที่สองเราต้องทำงานด้วยกันทั้งที่อยู่ในกลุ่มประเทศของเราหรือกับเพื่อนร่วมงานของเรา เช่น เลขาธิการอาเซียนการร่วมมือเป็นสิ่งจำเป็นหากเราต้องการประสบความสำเร็จในอนาคตระยะยาวในช่วงก่อนหน้าในการประชุมหารือระหว่างคณะผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียนกับผู้นำอาเซียนเราได้เสนอให้มีเวทีการประชุมเพื่อให้มีการประสานงานกิจกรรมต่างๆ ของอาเซียนกับเลขาธิการสมัชชารัฐสภาอาเซียนขึ้นซึ่งประธานอาเซียนได้รับข้อเสนอดังกล่าวดังนั้นเรามาร่วมกันเริ่มต้นมุ่งไปสู่การร่วมมือนั้น 

ประยุทธ์ ชวน รัฐสภา อาเซียน 4906-A689-CCE61DCE9C7F.jpegประยุทธ์ รัฐสภา อาเซียน 7C-45AA-BE15-EDD4991BEB51.jpeg


บทเรียนที่สามเราต้องให้ความสำคัญกับประชาชนก่อนสิ่งอื่นใดไม่ว่าเราจะมองไปยังคนในประเทศของเราหรือผู้อยู่อาศัย 647 ล้านคนของอาเซียนหรือมากไปกว่านั้นที่พลเมืองของโลกมันสำคัญที่เราจะวัดความสำเร็จของเราจากความเป็นอยู่ของ พวกเขาถ้าเราเพิ่มขีดความสามารถให้พวกเขาสามารถยืนด้วยตนเองได้โดยการให้โอกาสและความมั่นคง  ประชาคมจะเติบโตและคงทนได้ตามธรรมชาติ 

บทเรียนที่สี่เราจำเป็นต้องเคารพหลักนิติธรรมในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัติ  กฎหมายเป็นแก่นแท้ของเราเรารักษาระเบียบของสังคมผ่านกฎหมายแต่ในอีกด้านหนึ่งกฎหมายคือวิธีที่สังคมดูแลประชาชนซึ่งไม่มีประเทศใดสามารถหยิบยื่นให้พลเมืองของเขามีความมั่งคั่งเท่ากันได้แต่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครควรจะได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย 

"ขอให้ผมได้เล่าถึงช่วงเวลาที่ประเทศไทยซึ่งแม้จะอยู่ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยก็ได้ประสบกับความทุกข์จากปัญหาความไม่ยุติธรรมอย่างชัดเจนเมื่อฝ่ายบริหารได้เลือกปฏิบัติในทางต่อต้านต่อกลุ่มคนที่มีทรรศนะทางการเมืองแตกต่างจากพวกเขาแต่ก็ยังคงมีความหวังเมื่อสภานิติบัญญัติสามารถปกป้องการเลือกปฏิบัติของฝ่ายบริหารได้และรักษาไว้ซึ่งความเท่าเทียมทางกฎหมาย ผมได้รับเกียรติในการทำหน้าที่ทั้งการเป็นผู้นำฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติหากขาดการถ่วงดุลอำนาจสินบนและฉ้อราษฎร์บังหลวงจะกัดกร่อนสังคมจากภายในประชาคมที่ไม่รักษาหลักนิติธรรมจะไม่สามารถมีความเท่าเทียมกันได้อย่างแท้จริง" นายชวน กล่าว 

นายชวน กล่าวว่า ในประเทศไทยคนไทยทราบเกี่ยวกับ AIPA และความรับผิดชอบด้านต่างๆของเราน้อยแต่หากว่าในสัปดาห์นี้เราสามารถแก้ปัญหาบางประเด็นที่เชื่อมโยงโดยตรงกับชีวิตของประชาชนได้เราจะได้ที่นั่งในใจและความชื่นชมจากพวกเขาความสามารถของเราในการเปิดรับความหลากหลายเคารพในความแตกต่างนั้นและยังคงขับเคลื่อนต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคงจะสร้างให้ ASEAN มีคุณค่าสำหรับคนรุ่นต่อๆไป