ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรีศรีลังกาประกาศว่าจะไม่ยอมให้กลุ่มก่อการร้ายมาทำลายเสถียรภาพของประเทศ ขณะเดียวกันรัฐบาลจะจ่ายค่าชดเชยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมซ่อมแซมโบสถ์ที่เสียหาย

รานิล วิกรมสิงเห นายกรัฐมนตรีศรีลังกาประกาศว่า รัฐบาลศรีลังกาจะไม่ยอมให้การก่อการร้ายเฟื่องฟูขึ้นมากได้เด็ดขาด หากกลุ่มก่อการร้ายได้พยายามจะทำลายเสถียรภาพของศรีลังกา หน่วยงานต่างๆ ในศรีลังกาและนานาชาติจะร่วมมือกันขัดขวางการก่อเหตุโจมตี

วิกรมสิงเหยังกล่าวว่า รัฐบาลศรีลังกาจะจ่ายค่าชดเชยให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตในเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่โบสถ์คริสต์และโรงแรมหรูรวม 8 แห่งในศรีลังกา เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ซึ่งตรงกับวันอีสเตอร์ วันสำคัญทางศาสนาคริสต์ นอกจากนี้ รัฐบาลจะซ่อมแซมฟื้นฟูโบสถ์คริสต์ที่ได้รับความเสียหายจจากระเบิดด้วย

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดครั้งนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 290 รายแล้ว ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติอย่างน้อย 36 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 500 คน ถือเป็นเหตุรุนแรงที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดของศรีลังกานับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองในปี 2009

ตำรวจศรีลังการะบุว่าได้จับกุมคนไป 24 คนแล้ว แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับคนที่ถูกจับ และยังไม่ทราบอย่างชัดเจนว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังจากโจมตีครั้งนี้ รวมถึงยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงตัวว่าเป็นผู้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ศรีลังกาเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุระเบิดครั้งนี้น่าจะเป็นสมาชิกของ 'กลุ่มอิสลามิกสุดโต่ง'

วิกรมสิงเห เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ หน่วยงานด้านความมั่นคงได้รับข้อมูลว่าอาจมีการโจมตี แต่ไม่ได้มีตอบสนองกับข้อมูลดังกล่าว จึงต้องไปสืบสวนสอบสวนต่อว่าทำไมเจ้าหน้าที่จึงไม่มีมาตรการเฝ้าระวังเท่าที่ควร และทำไมตัวเขาและรัฐมนตรีต่างๆ ไม่ได้รับรายงานดังกล่าว

ทั่วโลกร่วมประณามการโจมตีครั้งนี้

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขสูงสุดแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกทรงประณามการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็นความรุนแรงอันโหดร้ายที่มุ่งเป้าโจมตีชาวคริสต์ ส่วนโฆษกของอันโตนิอู กูแตร์รีช เลขาะิการสหประชาชาติกล่าวว่า กูแตร์รีชรู้สึกเจ็บแค้นกับเหตุโจมตี และหวังว่าผู้ก่อเหตุจะถูกนำตัวมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว

นเรนทรา โมดิ นายกรัฐมนตรีอินเดียประณามว่าการโจมตีครั้งนี้เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน ด้านเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษทวีตข้อความว่า การก่อความรุนแรงต่อโบสถ์และโรงแรมในศรีลังกาเป็นเรื่องย่ำแย่อย่างแท้จริง ขณะที่จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์กล่าวว่า เราจะต้องค้นหาความตั้งใจและหาคำตอบสำหรับการยุติความรุนแรงเช่นนี้ร่วมกัน

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ออกคำเตือนสำหรับชาวอเมริกันที่จะเดินทางไปศรีลังกาว่า กลุ่มก่อการร้ายอาจกำลังวางแผนโจมตีต่อ

ความขัดแย้งในศรีลังกาก่อนหน้านี้

กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬ ได้ต่อสู้กับรัฐบาลศรีลังกามายาวนานกว่า 26 ปี เพื่อเรียกร้องอิสระภาพให้กับชาวทมิฬ ทำให้มีคนเสียชีวิตจากการสู้รบตลอดหลายปีที่ผ่านมาประมาณ 70,000 - 80,000 ราย จนกระทั่งสามารถเจรจายุติสงครามกันได้ในปี 2009

นับตั้งแต่การสิ้นสุดสงครามกลางเมืองศรีลังกา มีเหตุรุนแรงที่ชาวพุทธ ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ กระทำต่อคนกลุ่มน้อยทางศาสนาอย่างชาวมุสลิมและชาวคริสต์เกิดขึ้นหลายครั้ง เช่น เมื่อมี.ค. 2018 ที่ชาวพุทธโจมตีใส่มัสยิดและทรัพย์สินของชาวมุสลิมจนรัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในปี 2018

สมาคมชาวคริสต์อีแวนเจลิคัลแห่งชาติศรีลังกา (NCEASL) เปิดเผยข้อมูลว่า เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา มีกรณีเลิกปฏิบัติ ข่มขู่และก่อความรุนแรงต่อชาวคริสต์ทั้งสิ้น 86 กรณี และปีนี้ก็มี 26 กรณีแล้ว โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา พระสงฆ์พยายามเข้าไปขัดขวางการสวดมนต์วันอาทิตย์ของชาวคริสต์

จากข้อมูลการสำรวจสำมะโนประชากรศรีลังกาปี 2012 ศรีลังกามีประชากรทั้งหมด 22 ล้านคน นับถือศาสนาพุทธประมาณร้อยละ 70 ฮินดูร้อยละ 12.6 อิสลามร้อยละ 9.7 และคริสต์ร้อยละ 7.6

ที่มา : BBC, Colombo Page

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: