ไม่พบผลการค้นหา
รักสนุก ชอบบันเทิง ขี้เกียจ แต่หัวเส ฯลฯ ดูซิว่านิสัยคนไทยในมุมมองชาวต่างชาติจากบันทึกในประวัติศาสตร์เป็นอย่างไร

ฝรั่งที่เข้ามาในสยามตั้งแต่อดีต บันทึกเรื่องราวบ้านเราเอาไว้ในหลายแง่มุมชนิดที่หาอ่านจากพงศาวดารไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นสภาพภูมิศาสตร์ อาหารการกิน ไปจนถึงเรื่องหัวจิตหัวใจ

แน่นอนว่าฝรั่งเหล่านี้อาศัยในบ้านเราเพียงช่วงเวลาหนึ่ง และอาจมีมุมมองที่มองว่าตัวเองสูงส่งและเหนือกว่าชนชาติอื่นๆ ดังนั้น ข้อความต่างๆ จึงต้องอาศัยวิจารณญาน อ่านเอามันส์อย่างเดียวไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกันหากมองข้ามไม่สนใจไปเลยก็อาจเสียโอกาสในการ “ย้อนมองตัวเอง”


มีดนตรีในหัวใจ

ทำไมเราถึงโดนใจกับคำคมประเภทความสุขในวันศุกร์ ความทุกข์ใจในวันอาทิตย์ และความหงุดหงิดในเช้าวันจันทร์ นี่อาจไม่ได้เกิดจากความอาลัยอาวรณ์วันหยุดที่เพิ่งเกิดขึ้นในเจเนอเรชั่นของเราเท่านั้น แต่อาจเป็นมาตั้งแต่บรรพบุรุษ อ้างอิงจากปากคำของฝรั่งมากหน้าหลายตา ที่บันทึกไว้แบบเม้าท์มอยว่า คนสยามขึ้นชื่อลือชาเรื่องความสบายๆ จนเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ

“ฟรังซัวร์ส อังรี ตุรแปง” (Turpin) ชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาในสยามช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา บรรยายไว้ว่าสยามอุดมสมบูรณ์สุดๆ ข้าวปลาอาหารหาง่ายแล้วก็ถูกเหลือเชื่อ ฟังดูเกือบจะดีถ้าตาฝรั่งคนนี้ไม่เหน็บต่อว่า เพราะอาหารถูกแบบนี้ “ชนชาตินี้ไม่ต้องห่วงถึงช่องทางทำกิน ปล่อยตัวเกียจคร้าน ทุกบ้านช่องกึกก้องไปด้วยเสียงร้องเพลง และเสียงชื่นชมโสมนัส ซึ่งเราจะไม่ได้ยินในชนชาติอื่น” 


ไม่ชอบความเปลี่ยนแปลง

การบอกว่าขี้เกียจก็อาจจะหักหาญน้ำใจชาวสยามเกินไป ในวาทะของคนระดับนักปกครองอย่าง “เซอร์ แฮรี ออร์ด” (Harry Ord) ผู้สำเร็จราชการเมืองสิงคโปร์ จึงมีคำพูดที่ดูดีกว่านั้น และเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นอีกหน่อย โดยเขาบอกว่าชาวเรานั้น “ดูชอบสนุกมากกว่าทำการงาน” 

ท่านเซอร์ผู้นี้เดินทางจากสิงคโปร์ขึ้นมาเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ที่หว้ากอ ปี พ.ศ.2411 ได้เห็นลักษณะนิสัยใจคอคนสยามพอประมาณ เขาบอกว่าในแง่รูปร่างคนสยามนั้น “เตี้ย” แต่ถ้าในแง่นิสัยใจคอนั้นสงบเสงี่ยมน่าคบหา ฉลาด ว่องไว แต่ที่น่าสนใจคือ ท่านเซอร์มองว่าชาวสยาม “ไม่เปนผู้ชอบความวิวาทฤๅจะเห็นชอบในการเปลี่ยนแปลง และกล่าวกันว่านิสัยใจคอของชาวสยามเกลียดชังความไม่สุจริต” 

สองข้อนี้ดูขัดแย้งกันมาก เพราะถ้าไม่ชอบความวิวาทะ ก็คงไม่ไปเอาเรื่องเอาราวกับความไม่สุจริตที่ตัวเองเกลียดชัง และยิ่งไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงด้วยแล้ว คงยอมอยู่กับสิ่งที่ตัวเองเกลียดชังไปได้เรื่อยๆ อย่างนั้นหรือ? งงในงงจริงๆ ท่านเซอร์


เงินไม่มางานไม่เดิน

พอพูดถึงความไม่ซื่อสัตย์สุจริต ก็มีหลักฐานที่ฝรั่งเม้าท์มอยคนสยามโดยเฉพาะ “ข้าราชการ” อยู่เหมือนกัน ปากคำนี้เป็นของ “มองซิเออร์คอร์” มิชชันนารีฝรั่งเศสผู้พยายามที่จะตั้งคณะบาดหลวงขึ้นในสยาม ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (ตีพิมพ์ในประชุมพงศาวดารภาคที่ 39)

เขาเล่าว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานเงิน 20 เหรียญ เรือ 1 ลำ และที่ดินปลูกวัด โดยเงิน 20 เหรียญนั้นได้รับพระราชทานมาแล้ว แต่ของอื่นๆ จะตามมาทีหลัง ถึงตรงนี้มองซิเออร์คอร์บอกว่า “ของเหล่านั้นก็คงจะไม่ได้จนกว่าจะได้ให้เงิน หรือของแก่เจ้าพนักงาน พวกไทยเห็นจะไม่ทิ้งนิสัยเปนแน่ อย่างไรๆ ก็คงจะหาข้อแก้ตัวที่จะขัดพระราชโองการให้จงได้ เพื่อจะถ่วงเวลาให้ได้รับของกำนันเสียก่อนเท่านั้น”


เป็นทหารที่ดีไม่ได้ และผู้หญิงแข็งแกร่ง

“โยสต์ สเคาเต็น” (Joost Schouten) ผู้จัดการบริษัทการค้าฮอลันดาประจำกรุงศรีอยุธยา ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เขาผู้นี้อยู่ในกรุงศรีฯ ถึง 8 ปี ก่อนส่งไม้ต่อให้ เยเรเมียส ฟาน ฟลีต” (Jeremias von Vliet) หรือวันวลิต ให้เข้ามาเป็นผู้จัดการคนใหม่ จากประสบการณ์เข้าออกวัง รู้จักคนใหญ่คนโต ไปจนถึงพ่อค้าชาวบ้านร้านตลาดมากมาย ทำให้เขาบันทึกมุมมองเอาไว้แบบคอมโบเซ็ตว่า

“ชาวสยามเป็นทหารที่ดีไม่ได้ แต่บางครั้งก็โหดร้ายทารุณกับพวกเชลยศึกเหมือนกัน ชาวสยามมีท่าทางหยิ่งจองหอง แต่เมื่อมีกิจธุระต้องติดต่อกันก็สุภาพเรียบร้อยและมีกิริยาอัชฌาสัย คนพวกนี้ชอบสนุก ตามธรรมชาติ เป็นคนขลาดขี้ระแวง มีนิสัยประจบ ชอบหลอกลวงและพูดไม่จริงอย่างที่สุด 

ชายชาวสยามมีนิสัยเกียจคร้านไม่ชอบทำงาน ดังนั้นงานการทั้งหลายทั้งปวง หญิงจึงต้องทำ ผู้หญิงที่นี่มีร่างกายแข็งแรง ความสวยงามนั้นปานกลาง งานในนาก็ดี หรือในบ้านก็ดี หญิงสยามทำด้วยความขยันขันแข็งอย่างยิ่ง และมักจะทำร่วมกับข้าทาสบริวาร ส่วนชายนั้นไม่ค่อยได้ทำอะไร นอกจากราชการงานทหารและก็ออกไปเดินเล่นหาความเพลิดเพลินเท่านั้น” 

IMG_4961.JPG


วิฬาร์ ลิขิต
เสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ตามแต่ปากอยากจะแกว่ง เรื่องที่คนทั่วไปสนใจ หรือใครไม่สนใจแต่ฉันสนใจฉันก็จะเขียน การตีความที่เกิดขึ้นไม่ใช่ที่สุด ถ้าจุดประเด็นให้ถกเถียงได้ก็โอเค แต่ถึงจุดไม่ติดก็ไม่ซี เพราะคิดว่าสิ่งที่ค้นๆ มาเสนอ น่าจะเป็นประโยชน์กับใครบ้างไม่มากก็น้อยในวาระต่างๆ จะพยายามไม่ออกชื่อด่าใครตรงๆ เพราะยังต้องผ่อนคอนโด แต่จะพยายามเสนอ Hint พร้อมไปกับสาระประวัติศาสตร์ที่คิดว่าน่าสนใจและเทียบเคียงกันได้
2Article
0Video
66Blog