ไม่พบผลการค้นหา
โฆษกกระทรวงกลาโหม เผยตัวเลขคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. เข้าสู่สถานที่กักกันตัวของรัฐ ย้ำกองทัพ เฝ้าระวังและสนับสนุนมาตรการผ่อนคลายระยะ 4

วันที่ 13 มิ.ย. พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และพล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมร่วมกับหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และเหล่าทัพ เพื่อติดตามการบริหารจัดการมาตรการกักตัวควบคุมโรคของรัฐ ที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กระทรวงกลาโหม

โดยสรุปสถานภาพคนไทยที่เดินทางผ่านสายการบินกลับจากต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. ถึงปัจจุบัน 13 มิ.ย. และเข้าสู่สถานที่กักกันตัวของรัฐ ( State Quarantine ) จำนวน 20,165 คน ในสถานกักกันตัวที่กำหนด 36 แห่ง 

พบผู้ติดเชื้อและส่งเข้ารักษาระหว่างกักตัว 104 ราย ส่งกลับภูมิลำเนาแล้ว 13,623 คน ยังอยู่ระหว่างพักกักตัว 6,533 คน

โดยระหว่างวันที่ 13 -14 มิ.ย.63 จะมีคนไทยเดินทางเข้ามาอีกจำนวน 974 คน ใน 7 เที่ยวบิน พร้อมทั้งรับทราบสถานภาพของคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศรอบบ้าน ผ่านช่องทางผ่านแดนทางบก และเข้าสู่สถานที่กักกันตัวในพื้นที่จังหวัด ( Local Quarantine ) ที่กำหนด รวม 25,835 คน ใน 878 สถานที่ 77 จังหวัดโดยยังอยู่ระหว่างพักกักตัว 4,902 คน 

“พล.อ.ชัยชาญได้กล่าวแสดงความขอบคุณทุกเหล่าทัพและเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงานที่ร่วมกันดูแลคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศและปฏิบัติหน้าที่เป็นหลักตามมาตรการกักตัวควบคุมโรคของรัฐ ซึ่งมีส่วนสำคัญยิ่งต่อการคัดกรองและควบคุมการแพร่ระบาดจากภายนอกประเทศที่ผ่านมา ในระหว่างที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโลกในภาพรวมยังไม่สามารถควบคุม โดยย้ำขอให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องกันไปด้วยความไม่ประมาทและให้พัฒนาความสามารถรองรับคนไทยกลับจากต่างประเทศที่ยังตกค้างอยู่จำนวนมาก"

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวต่อว่า ขอให้ทุกเหล่าทัพยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์ของโรคและเตรียมการสนับสนุนมาตรการผ่อนคลายในระยะที่ 4 ที่จะมีขึ้นหลังวันที่ 15 มิ.ย. โดยจำเป็นต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนมากขึ้น ขณะเดียวกันยังคงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมแผนปฏิบัติการหากมีสถานการณ์แพร่ระบาดซ้ำ และขอให้ทุกเหล่าทัพยังคงสนับสนุนให้การช่วยเหลือประชาชนในหลายกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่องกันไป โดยเฉพาะการกระจายจัดชุดซ่อมเคลื่อนที่ สนับสนุนซ่อมเครื่องมือการเกษตรกับเกษตรกรพื้นบ้าน เพื่อเตรียมพร้อมการฟื้นตัวของภาคการเกษตรในฤดูฝนที่กำลังมาถึง