ไม่พบผลการค้นหา
โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ซัดเอกสาร กกต. หลุด คดีเงินกู้ 'ธนาธร' ตั้งธงก่อนชงศาล รธน. ยุบพรรคซ้ำ ยันคดีไม่ถึงขั้นยุบพรรคการเมืองได้ ยอมรับ ส.ส.ในพรรคถูกจ้องซื้อให้เป็นงูเห่า

ที่พรรคอนาคตใหม่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงกรณีมีเอกสารอาจจะหลุดออกมาจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยระบุให้ดำเนินคดีอาญานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่และกรรมการบริหารพรรคกรณีคดีเงินกู้ของนายธนาธร

โดยโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า กรณีเอกสารที่หลุดออกมานั้น ทำให้เกิดความน่าสงสัย ว่าการดำเนินการของ กกต.เป็นไปโดยมีธงทางการเมืองและใบสั่งทางการเมืองหรือไม่ เพราะรายละเอียดในเอกสารนี้ได้มีการชี้นำคดีไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าจะให้นายธนาธรและกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่มีความผิดในคดีอาญา ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี

โดยความเห็นนี้มีมาตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา แต่กกต.มาเรียกพยานเอกสารจากพรรคในเดือน ต.ค. 2562 แต่ทั้งนี้ต้องอย่าลืมว่าใบสั่งทางการเมืองสามารถมีได้มากกว่าหนึ่งใบเสมอ ซึ่งทางพรรคอนาคตใหม่เองก็ได้รับรายงานมาจากแหล่งข่าวเช่นกัน ว่ากำลังมีความพยายามที่จะทำให้คดีนี้ นำไปสู่การวินิจฉัยโดยศาลรัฐธรรมนูญและนำไปสู่การยุบพรรคอนาคตใหม่

ทั้งที่ คดีนี้ฐานความผิดไม่เกี่ยวข้องกับการยุบพรรคเลยแม้แต้น้อย ไม่สามารถนำไปสู่การยุบพรรคได้ตามตัวบทกฎหมาย

น.ส.พรรณิการ์ ระบุว่า พรรคอนาคตใหม่มีข้อสังเกต ว่าในขณะนี้อาจมีใบสั่งทางการเมืองไม่ใช่แค่ใบเดียว แต่มีสองใบหรือไม่ กล่าวคือทั้งจะดำเนินคดีอาญาตัดสิทธิทางการเมืองนายธนาธรและกรรมการบริหารพรรค 5 ปี พร้อมกับนำเรื่องขึ้นสู่ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การยุบพรรคให้ได้ด้วย ตนจึงขอให้ประชาชนได้ช่วยกันจับตามองในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

"สิ่งที่น่าจะพอทำให้เห็นได้ว่าเป็นเรื่องของธงหรือใบสั่งทางการเมืองอาจจะเป็นเรื่องจริง คือ กรณีที่ กกต.ไม่รอให้คณะอนุกรรมการสอบสวนคดีหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด สอบสวนให้แล้วเสร็จก่อน แต่กลับมีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญไป โดยที่ยังมีการเรียกพยานในคดีดังกล่าวไปสอบอยู่ ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ได้ยื่นฟ้อง กกต.ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบไปแล้ว" น.ส.พรรณิการ์ ระบุ

ขณะเดียวกัน กลับปรากฏว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กกต.กลับยังคงไม่ยอมรับ และออกมายืนยันว่าปฏิบัติหน้าที่โดยชอบแล้ว โดยอ้างว่าที่ กกต.เรียกตัวพยานมาสอบนั้นเป็นเรื่องคดีอาญา ซึ่งทางพรรคขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากเอกสารเรียกพยานมาสอบทุกฉบับ ไม่มีฉบับใดที่ระบุว่าเป็นการสอบในคดีอาญาตามมาตรา 151 ดังที่ กกต.กล่าวอ้าง ในทางกลับกัน เอกสารทุกฉบับระบุว่าเป็นการสอบในความผิดฐานมีลักษณะต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ซึ่งก็คือตามคดีที่ กกต.ส่งฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญไป ไม่มีฉบับใดที่พูดถึงความผิดตามมาตรา 151 เลย

"กกต.พูดแบบนี้ต่อสังคมหมายความว่าอย่างไร นี่เป็นหลักฐานที่ชัดเจน ว่ามีความเป็นไปได้ว่า กกต.มีธงทางการเมือง อนุฯ ยังสอบไม่เสร็จกลับส่งเรื่องสู่ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ทั้งๆ ที่อนุฯ สอบประเด็นเดียวกัน ไม่ใช่คดีอาญา ขอให้กกต.ตอบเรื่องนี้ด้วย เพื่อความกระจ่างต่อสังคม ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.เป็นไปโดยชอบ ไม่มีธงทางการเมืองแบบที่สังคมกำลังสงสัย" น.ส.พรรณิการ์ กล่าว

พร้อมระบุถึงกรณีงูเห่าที่เกิดขึ้นในระยะหลัง โดยระบุว่าในช่วงที่ผ่านมานี้ ได้มี ส.ส.ของพรรคหลายคนถูกรบกวนโดยขบวนการซื้องูเห่า มีการติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมากจากหลายกลุ่มหลายพรรค เนื่องจากเห็นว่าเป็นเวลาที่พรรคกำลังเผชิญกับคดีต่างๆ ในระยะหลังนี้ยิ่งมีความพยายามหนักข้อขึ้น ตนขอประกาศไว้ให้ทราบโดยทั่วกัน ถึงผู้ที่มารบกวน ส.ส.ของพรรค ขอให้ยุติการกระทำดังกล่าวแล้วเอาเวลาไปทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนดีกว่า ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ยังอยากทำงานเพื่อประชาชน ไม่ว่างรับโทรศัพท์จากใครที่จะมาเสนอราคาซื้องูเห่าทั้งสิ้น