ไม่พบผลการค้นหา
รองนายกฯ ดันงบหนุนวิจัยและพัฒนา ย้ำประเทศต้องกลับมาดีกว่าเดิม และการสร้างให้เกิดการจ้างงานเป็นหน้าที่สำคัญของรัฐบาลเพื่อประชาชน

นายเฮง ซวี เคียต รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์แถลงต่อสาธารณชนผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมาถึงจุดยืนของประเทศและการพัฒนาระยะต่อไปเพื่อฟื้นคืนเศรษฐกิจท่ามกลาง “วิกฤตแห่งยุคสมัย”

รองนายกฯ ยอมรับว่าผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลร้ายแรงกับเศรษฐกิจสิงคโปร์ที่สุดในรอบหลายสิบปี ตัวเลขอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้คาดการณ์ว่าจะติดลบราวร้อยละ 4-7 ขณะปัญหาผู้ว่างงานพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรแรกที่ผ่านมา อีกทั้ง ภายในระยะเวลาเพียง 100 วัน รัฐบาลได้ออกมาประกาศใช้เม็ดเงินงบประมาณไปแล้วกว่า 100 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 2,200 ล้านบาท 

นายเคียตชี้ว่าทุกมาตรการที่ออกมาเป็นความจำเป็นในการพยุงประเทศและประชาชนเอาไว้ไม่ให้สูญเสียความก้าวหน้าที่สั่งสมกันมา รองนายกยังย้ำว่า

“เราซาบซึ้งใจอย่างมากกับผู้คนยุคก่อน ที่หยาดเหงื่อแรงกายของพวกเขาทำให้เรามีเงินทุนสำรองขนาดนี้ ดังนั้นทุกคนควรตระหนักว่า เมื่อเราฟื้นตัวกลับมาจากวิกฤตนี้ ยุคสมัยของเราต้องสร้างประเทศให้ดียิ่งขึ้น” รองนายกฯ ย้ำ

เม็ดเงินลงทุนในการวิจัยและพัฒนามูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 443,000 ล้านบาท จะถูกจัดสรรให้กับงานวิจัยที่จะสร้างผลกระทบสูง อาทิ วิทยาศาสตร์สุขภาพและชีวกรรมการแพทย์ ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หรือปัญญาประดิษฐ์ ภายใต้กรอบการดำเนินงานราว 5 ปี 

รองนายกฯ กล่าวว่า ทุกประเทศกำลังให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้าเพื่อสร้างเกราะป้องกันให้ประชาชนและเศรษฐกิจ “แต่เราจะไปเหนือกว่านั้นด้วยการลงทุนที่จะมอบแท่นกระโดดให้กับประชาชนทุกคน ให้กลับมาเข้มแข็งมากกว่าเดิม”


แรงงาน = อนาคตของชาติ
สิงคโปร์ โควิด.jpg

รองนายกฯ กลับมาพูดถึงปัญหาเร่งด่วนสำคัญที่สุดสำหรับรัฐบาลในปัจจุบันคือการแก้ปัญหาประชากรว่างงาน โดยยอมรับว่า แม้รัฐบาลจะทำทุกอย่างอย่างเต็มที่แล้ว ประชากรจำนวนมากก็ยังต้องเผชิญหน้ากับการตกงานอย่างเลี่ยงไม่ได้ นโยบายการแจกเงินช่วยเหลือจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ 

นายเคียต ชี้ว่า ปัจจุบันรัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาแรงงานมาเป็นอันดับที่หนึ่ง เพราะการมีงานทำของประชาชนเป็นหนทางตรงในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวสิงคโปร์ และย้ำว่า “งานคือสวัสดิการรัฐที่ดีที่สุดสำหรับผู้คนของเรา” ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการหางานแห่งชาติกำลังเร่งสร้างงานกว่า 100,000 แหน่ง รวมทั้งโอกาสในการพัฒนาทักษาะเพิ่มเติมให้กับประชาชน เนื่องจากประเทศไม่ต้องการสูญเสียแรงงานและผู้คนวัยหนุ่มสาวไปอย่างไร้ประโยชน์

“เราต้องการเศรษฐกิจที่เข้มแข็งขึ้นกว่าเดิม หลากหลายและครอบคลุมทุกฝ่าย ยืดหยุ่นและตั้งอยู่บนนวัตกรรม เชื่อมกับจุดใหม่ๆ ในเอเชียและในโลกนี้ เพื่อให้เราสามารถสร้างงานได้มากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสให้แรงงานได้ปีนสูงขึ้นไปบันไดแห่งทักษะ” นายเคียต กล่าว

สิงคโปร์ยังย้ำที่จะเดินหน้าการเป็นประเทศแห่งการค้า โดยต้องการตั้งตัวเป็นศูนย์กลางแห่งการเดินทางทางทะเลและเครื่องบิน เพิ่มการแข่งขันทางการค้า บริการ ตลาดการเงิน ตลาดข้อมูล รวมไปถึงการเป็นศูนย์รวมผู้มีศักยภาพเอาไว้ ทั้งยังจะหาแนวทางพัฒนารักษาเอกลักษณ์ความเป็นเมืองสีเขียวต่อไป

ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ Worldmeters ณ วันที่ 21 มิ.ย.เวลา 9.30 น.สิงคโปร์มีผู้คิดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั้งสิ้น 41,833 ราย และคิดเป็นผู้เสียชีวิต 26 ราย ขณะที่อีก 34,224 รายรักษาตัวหายแล้ว โดยตามข้อมูลจากรัฐบาล ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ยังเพิ่มขึ้นในหลักร้อยรายต่อวันส่วนมากเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับที่พักคนงาน

อ้างอิง; Bloomberg, CNA, ST