ไม่พบผลการค้นหา
MTI ประกาศตัวเลขจีดีพีสิงคโปร์ไตรมาสสองติดลบร้อยละ 12.6 (YoY) อุตสาหกรรมแทบทุกภาคส่งเจ็บตัวหนัก มีเพียงภาคการผลิตในฝั่งชีวการแพทย์ที่ยังทรงตัวดีอยู่

กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ (เอ็มทีไอ) ประกาศตัวเลขอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2/2563 ติดลบร้อยละ 12.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) ขณะที่ตัวเลขจีดีพีหดตัวหนักถึงร้อยละ 41.2 เมื่อเทียบกับตัวเลขในไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากมาตรการล็อกดาวน์ที่เกิดขึ้นเพื่อต่อสู้กับวิกฤตโรคระบาด ประกอบกับอุปสงค์จากต่างประเทศและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

สิงคโปร์
  • ที่มา; MTI

เมื่อจำแนกตามภาคธุรกิจ รายงานจากกระทรวงฯ ชี้ว่า ฝั่งอุตสาหกรรมการผลิตปรับตัวดีขึ้นร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าในไตรมาสนี้ แต่ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าไตรมาส 1/2563 ที่อยู่ที่ร้อยละ 8.2 โดยส่วนมากแล้ว ปัจจัยบวกในอุตสาหกรรมการผลิตกระจุกตัวอยู่ในภาคชีวการแพทย์เป็นหลัก 

ด้านอุตสาหกรรมก่อสร้างติดลบหนักถึงร้อยละ 54.7 เมื่อเทียบกับตัวเลขไตรมาสสองปีก่อนหน้า โดยมีเหตุผลหลักมาจากประกาศสั่งหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจของรัฐบาลซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับโครงการก่อสร้างที่ดำเนินการอยู่ เมื่อเทียบกับตัวเลขในไตรมาสที่แล้ว ภาคก่อสร้างของสิงคโปร์ติดลบถึงร้อยละ 95.6 

สิงคโปร์-unsplash
  • ภาพสนามบินชางงี, Joe Green

ท้ายที่สุด ภาคบริการของประเทศซึ่งเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสิงคโปร์ติดลบร้อยละ 13.6 เมื่อเทียบกับตัวเลขในไตรมาส 2/2562 และยังหดตัวลึกลงอีกร้อยละ 2.4 จากไตรมาสแรกของปีนี้ ภายใต้อุตสาหกรรมนี้ ผู้เล่นที่อยู่ในฝั่งการท่องเที่ยวทั้งส่วนที่พักและการเดินทางทางอากาศได้รับผล กระทบอย่างรุนแรงจากการควบคุมการเดินทางทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ 

ด้านค้าส่งและการขนส่งทางน้ำก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันเนื่องจากอุปสงค์จากนอกประเทศตกต่ำลงจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ขณะที่วงการค้าปลีกภายในประเทศก็ไม่ได้เผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ดีกว่าแต่อย่างใด 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ปัจจุบันรัฐบาลสิงคโปร์เริ่มผ่อนปรนมาตรการจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ( circuit breaker measures) ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา และส่งผ่านเข้าสู่การเปิดเศรษฐกิจในระยะที่ 2 เมื่อวันที่ 19 ในเดือนเดียวกัน ซึ่งส่งผลให้ร้านค้า ร้านอาหาร และธุรกิจต่างๆ กลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง ภายใต้การเฝ้าระวังและการเว้นระยะห่างทางสังคม 

ทั้งนี้ เซเลนา หลิง หัวหน้านักวิจัยและกลยุทธ์การคลังจากธนาคารโอซีบีซี ชี้ว่า ความเลวร้ายที่สิงคโปร์ต้องเผชิญดูจะยังไม่จบแค่นี้ โดยเธอชี้ว่า จีดีพีประเทศในช่วง 6 เดือนแรกของปีตกลงมาแล้วถึงร้อยละ 6.5 แม้สถานการณ์หลายอย่างจะเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติในไตรมาสที่สามนี้ แต่การเติบโตจะคงอยู่ในแดนลบไปตลอดทั้งปี 2563 โดยธนาคารประเมินว่าจีดีพีทั้งแของสิงคโปร์จะอยู่ที่ติดลบร้อยละ 5.5

อ้างอิง; Bloomberg, ST, Reuters, CNA

ข่าวที่เกี่ยวข้อง;