ไม่พบผลการค้นหา
รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ย้ำสถานการณ์ไข่ไก่ในประเทศดีขึ้นมีปริมาณออกสู่ตลาดมากขึ้นเพียงพอต่อการจำหน่ายให้ผู้บริโภค หลังมีมาตรการห้ามส่งออกไข่ไก่ใน 7 วันแรก เข้มมาตรการราคาหน้าฟาร์มไม่เกินฟองละ 2.80 บาท พร้อมขอผู้ประกอบการครอบครองไข่ไก่เกิน 1 แสนฟองต่อวันแจ้งปริมาณการผลิตให้ 'พาณิชย์' ทราบทุกวันตั้งแต่ 7 เม.ย.

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ระบุถึงสถานการณ์ไข่ไก่ในประเทศ ว่า ตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้น ได้ตรวจสอบในจังหวัดต่างๆแล้วพบว่าสถานการณ์เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ใน 52 จังหวัดมีปริมาณไข่ออกสู่ตลาดมากขึ้น และมีพอสำหรับการจำหน่ายให้ผู้บริโภค ทั้งหมดนี้ก็เพราะว่ามาตรการต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์ที่ได้ดำเนินการ ตั้งแต่การห้ามส่งออกไข่ไก่ในช่วงแรกเป็นเวลา 7 วัน และประกาศขยายระยะเวลาออกไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย. บวกกับมาตรการในเรื่องของการกำหนด ราคาหน้าฟาร์มว่าไม่ควรเกินฟองละ 2.80 บาท และการจำกัดการซื้อในห้างค้าปลีกค้าส่งที่เป็นโมเดิร์นเทรดคนละไม่เกิน 1-2 แผง เพื่อให้ไข่ไก่กระจายไปยังผู้บริโภคให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น และมาตรการในการปลดแม่ไก่ยืนกรงออกไปยาวนานกว่า 80 สัปดาห์ 

“มาตรการที่ได้ดำเนินการล่าสุด ก็คือขอให้ผู้ประกอบการที่ครอบครองไข่ไก่เกินกว่า 100,000 ฟองต่อวัน ได้แจ้งปริมาณการผลิต ปริมาณการรับซื้อ การจำหน่าย และสต๊อก รวมทั้งสถานที่เก็บ ให้กับกระทรวงพาณิชย์ทราบ ทุกวันตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. เป็นต้นไป” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ ระบุว่า มาตรการทั้งหมดนี้ทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องของแนวปฏิบัติและทำให้ไข่ไก่ออกสู่ตลาดมากขึ้น เรื่องราคายังอยู่ในราคาที่ปกติ ถ้าพบว่ามีการขายเกินราคาหรือค้ากำไรเกินควร คณะกรรมการป้องกันการกักตุนสินค้าและค้ากำไรเกินควรที่ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานในส่วนกลางและผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานในแต่ละจังหวัดก็จะเป็นผู้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย