นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย ส.ส. กรุงเทพมหานครและอดีตผู้สมัคร ส.ส. ร่วมกันแถลงตั้งศูนย์ประสานงาน PM 2.5 โดยกิจกรรมของพรรคที่แถลงต่อสื่อมวลชนในวันนี้คือการตั้งศูนย์ประสานงาน PM 2.5 จะดำเนินการเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเฉพาะหน้า ซึ่งช่วงนี้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะมีลมเข้ามาทำให้ค่า PM ตกลงไปแต่ปัญหานี้จะอยู่กรุงเทพฯ เมื่ออากาศปิดจะมี PM 2.5 สะสมขึ้นมา จึงตั้งศูนย์ประสานงานร่วมกับส.ส.กรุงเทพฯ และผู้สมัครของพรรครณรงค์ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวต่อไป เพื่อดูรายละเอียดต่อไป ขณะเดียวกันจะมีกิจกรรมและนำเสนอมาตรการและการนำพืชต่างๆ มาใช้ร่วมกันเดินรณรงค์ในพื้นที่

ส่วนเรื่องไวรัสสายพันธุ์โคโรน่าที่ระบาดในประเทศจีน นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในประเทศไทย ดังนั้นการรณรงค์ PM 2.5 กับการใส่หน้ากากซึ่งใกล้เคียงกันสามารถช่วยป้องกันได้ทั้งการแพร่กระจายไวรัสโคโรน่า และ PM 2.5 ด้วยในคราวเดียวกัน

นางสาวภาดาห์ วรกานนท์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยถึงขั้นนอนไม่หลับ ตอนนี้พรรคจึงตั้งศูนย์ประสานงานฯ รวบรวมองค์ความรู้จากนักวิชาการและภาคส่วนต่างๆ เพื่อกระจายความรู้ในการป้องกันตัวเอง และรับเรื่องร้องเรียนและข้อเสนอแนะจากประชาชน เสนอมาตรการและองค์ความรู้ใหม่ๆ เช่น การใช้อุปกรณ์ป้องกัน PM 2.5, โครงการ PM Fight ติดตั้งหัวฉีดละอองน้ำขนาดเล็กบนกำแพงต้นไม้เพื่อสู้ระบบมลพิษทางอากาศ ซึ่งประกอบด้วยต้นไม้หลายชนิด ที่มีคุณสมบัติเรื่องการดักจับฝุ่นละอองดูดซับสารพิษลดความร้อนเพิ่มออกซิเจนในอากาศเพิ่มพื้นที่สีเขียวและลดภาวะตึงเครียด และนำเสนอใช้หัวพ่นละอองน้ำตามบ้านเรือน อีกทั้งหน่วยงานใดพอมีงบประมาณควรเอาไปทำเพื่อดักจับฝุ่นที่ออกมาจากท่อรถยนต์ไม่ต้องลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศจนทำให้เกิดปรากฏการณ์ฝาชี ทำให้มลพิษออกไปไม่ได้

นอกจากนี้พรรคยังทำเอกสารออกมาแนะนำ 10 วิธีเร่งด่วน และระบบฟอกอากาศจะ Cover System ระบบอนุภาคดักฝุ่นพร้อมด้วยระบบฟอกอากาศพ่นไอน้ำ เครื่องดักจับมลพิษปลายท่อไอเสียรถเมล์ รณรงค์ถ้าไม่ขับขอให้ดับเครื่อง รวมถึงกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุเด็กเล็กและคนมีปัญหาภาวะทางเดินหายใจในช่วงค่ามลพิษสูงควรอยู่ที่บ้านและทำงานอยู่ที่บ้าน หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ผู้ป่วยเบื้องต้น และควรจะทำเซฟโซนเพื่อหลบภัยมลพิษ และจะเดินแจกหน้ากากเพื่อรณรงค์

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐให้ความใส่ใจและจะขับเคลื่อนในนามของพรรคการเมืองเพื่อประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและรณรงค์ให้เกิดความตระหนักรู้ แต่ไม่ว่ามาตรการ PM 2.5 หรือการป้องกันไวรัสโคโรน่า ไม่มีมาตรการใดสำเร็จได้หากไม่ร่วมมือกัน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐมีนักวิชาการทำเรื่อง PM 2.5 ศึกษาตั้งแต่การหาเสียงเลือกตั้งปีที่แล้วจนพบหัวที่สร้างละอองแต่ให้ขนาดเล็กที่จะจับ PM 2.5 ได้ ถ้าทุกบ้านช่วยกันติดหัวละอองนี้และสเปรย์บริเวณด้านหน้าของตัวเองเพื่อจะจับ PM 2.5 ได้และสามารถลดปริมาณลงมา ซึ่งมีราคาประมาณ 1,000 บาทต่อสิบหัว ประชาชนสามารถหามาติดตั้งที่บ้านเพื่อกันฝุ่นได้โดยใช้ระบบน้ำประปาปกติ ซึ่งพรรคจะรณรงค์การลด PM 2.5 ทั้ง 50 เขตใน กทม. และขับเคลื่อนการทำงานทุกวันอาทิตย์ อีกทั้งยังจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งหัวฉีดดังกล่าวในพื้นที่สาธารณะ

ขณะเดียวกัน นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า ส่วนน้ำมัน B10 กระทรวงพลังงานจะรณรงค์ให้รถเติม B7 อย่างน้อยเพื่อลดมลพิษ ทุกปั๊มเร่งหัวจ่าย 1 มีนาคม พร้อมประสานทุกค่ายให้ลดราคาเปลี่ยนไส้กรอง ถ่ายน้ำมันเครื่อง เตรียมเคาะในที่ประชุมสัปดาห์หน้า ส่วนรถสาธารณะ นายกฯ บอกให้จับกุมรถควันดำ เวลาวัด AQI ไม่ได้แค่ PM 2.5 แต่มีสารอย่างอื่นด้วย พรรคจะประสานงานกรมควบคุมมลพิษเพื่อแก้ปัญหาและหาเครื่องตรวจวัดเฉพาะค่า PM 2.5 จากควันท่อรถ และจะประสานงานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหาพื้นที่พักชั่วคราวให้ประชาชนมาพักในยามที่ค่าอากาศวิกฤติ

ส่วนผลสำรวจเสียงประชาชนของโพลต่างๆ สำรวจออกมา ยังไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลชุดนี้จะแก้ปัญหาฝุ่นได้ รัฐบาลตระหนักเรื่องนี้มาก ในการประชุม ครม. ก็ถกเรื่องนี้นาน มีประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯ เพื่อแก้ปัญหานี้อยู่ตลอด

ส่วนที่ #รัฐบาลเฮงซวย ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ นั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เราจะเน้นการสื่อสารถึงประชาชน ยืนยันไม่นิ่งนอนใจ