ไม่พบผลการค้นหา
ตำรวจฮ่องกงใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่จับกุมนักศึกษา 4 คน ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสนับสนุนเอกราช ที่เพิ่งมีการประกาศยุบกลุ่มไป ด้วยข้อกล่าวหายุยงให้เกิดการแยกตัว

ตำรวจฮ่องกงเปิดเผยว่า นักศึกษาที่ถูกจับกุมเป็นผู้ชาย 3 คน และผู้หญิง 1 คน อายุระหว่าง 16-21 ปี โดยถูกจับกุมฐานต้องสงสัยจัดตั้งองค์กรและยั่วยุให้เกิดการแบ่งแยก โดยมีการยึดคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์และเอกสารต่างๆ ของนักศึกษาเอาไว้ด้วย 

ข้อมูลจากแหล่งข่าวและการสอบสวนแสดงให้เห็นว่านักศึกษากลุ่มนี้เพิ่งประกาศผ่านโซเชียลมีเดียว่าจะจัดตั้งองค์กรที่เคลื่อนไหวเพื่อเอกราชฮ่องกง โดยนักศึกษาที่ถูกจับกุมเป็นอดีตสมาชิกหรือมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม 'Studentlocalism' กลุ่มเยาวชนสนับสนุนเอกราชที่ได้ประกาศยุบกลุ่มไปเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ แต่ระบุว่าจะเดินหน้าเคลื่อนไหวต่อไปจากต่างประเทศ แม้ตำรวจจะยืนยันว่าการดำเนินกิจกรรมจากต่างประเทศ ก็ยังคงถูกดำเนินคดีได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม กลุ่ม 'Studentlocalism' เผยว่า ในผู้ที่ถูกจับกุมมี 'โทนี ชุง' อดีตผู้นำกลุ่มรวมอยู่ด้วย 

ด้าน 'โจชัว หว่อง' นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยคนสำคัญก็เผยว่า ชุงถูกตำรวจตามมาหลายวันแล้ว และเขาถูกจับเพราะโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเกี่ยวกับชาตินิยมจีน และกล่าวหาว่าโทรศัพท์มือถือของผู้ที่ถูกควบคุมตัวถูกแฮ็กไม่นานหลังการจับกุมเกิดขึ้น 

กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ ได้ส่งผลให้เกิดบรรยากาศความกังวลทั่วฮ่องกง ซึ่งต้องได้รับการรับรองเสรีภาพและอิสระในการปกครองตนเองจากจีนแผ่นดินใหญ่เป็นเวลา 50 ปี ภายใต้หลักการ 'หนึ่งประเทศ สองระบบ' ตามที่ตกลงกันไว้เมื่อสหราชอาณาจักรส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนสู่จีนเมื่อปี 2540 โดยรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ระบุว่า กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติมีความจำเป็นเพื่อยุติความไม่สงบ ฟื้นฟูเสถียรภาพ และจะไม่กระทบต่อเสรีภาพทางการเมือง แต่นักวิจารณ์และหลายประเทศในโลกตะวันตกชี้ว่ากฎหมายดังกล่าวทำลายหลักการ 'หนึ่งประเทศ สองระบบ' 

รายงานระบุว่า จนถึงตอนนี้มีผู้ถูกจับกุมภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติแล้วอย่างน้อย 15 คน นับตั้งแต่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. โดยการจับกุมครั้งแรกเกิดขึ้นกับประชาชนที่ครอบครองธงสนับสนุนเอกราช 

อ้างอิง CNA / BBC