ไม่พบผลการค้นหา
สวนในจังหวัดไซตามะของญี่ปุ่นตัดต้นอ่อนดอกกุหลาบนับพันต้นทิ้ง ป้องกันประชาชนออกมารวมตัวชมความงามของดอกไม้ในช่วงที่ทางการพยายามควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นกรุงโตเกียวขอให้ประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อของให้น้อยลง

รัฐบาลท้องถิ่นจังหวัดไซตามะได้ตัดสินใจยกเลิกงานเทศกาลดอกกุหลาบประจำปีซึ่งโดยปกติจะจัดขึ้นในสวนโยโนะช่วงเดือนพ.ค. แต่ยังคงเปิดให้ประชาชนเข้าไปในสวนดังกล่าวได้ แต่ล่าสุดทางการได้สั่งตัดพุ่มดอกกุหลาบ 180 สายพันธุ์ภายในสวนออก ซึ่งโดยปกติดอกกุหลาบจะเบ่งบานเต็มที่ในช่วงกลางเดือน พ.ค.และมักเป็นจุดสนใจหลักของผู้ที่มาเยือน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยว่านี่เป็นเรื่องที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง แต่ก็ตัดสินใจดำเนินการหลังพิจารณาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองอื่น โดยบอกว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ในการตัดดอกกุหลาบเหล่านี้ทั้งหมด 

ก่อนหน้านี้ที่เมืองซากุระ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวมาทางตะวันออกประมาณ 50 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ก็ได้ตัดดอกทิวลิปนับแสนต้นทิ้ง รวมถึงยกเลิกเทศกาลชมดอกทิวลิปประจำปี หลังมีประชาชนฝ่าฝืนคำแนะนำเว้นระยะห่างทางสังคมระหว่างการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อยับยั้งการระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ออกมาชมความงามของดอกทิวลิปที่เบ่งบานเต็มที่ในช่วงสุดสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เผยว่าดอกไม้ที่ถูกตัดเหล่านี้ได้ถูกนำไปบริจาคให้กับโรงเรียนอนุบาลในท้องถิ่น 

สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานว่า จนถึงตอนนี้ญี่ปุ่นมีผู้ป่วยโควิด-19 สะสมกว่า 12,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 430 ราย นายกรัฐมนตรี ‘ชินโซ อาเบะ’ ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 7 เมืองใหญ่รวมถึงกรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ก่อนจะขยายครอบคลุมทั่วประเทศในเวลาต่อมา โดยเรียกร้องให้ประชาชนงดออกจากบ้านหากไม่จำเป็นและปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม 

ขณะที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ‘ยูริโกะ โคอิเกะ’ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวได้ขอให้ประชาชนในเมืองหลวงลดความถี่ในการออกจากบ้านไปจับจ่ายซื้ออาหารตามซูเปอร์มาร์เก็ตและแหล่งชอปปิงต่างๆ ให้เหลือเพียง 3 วันต่อครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส หลังมีรายงานว่าซูเปอร์มาร์เก็ตและแหล่งช้อปปิ้งยังมีลูกค้าเนืองแน่น โดยผู้ว่าการกรุงโตเกียวระบุว่าในช่วง 12 วันนับตั้งแต่วันเสาร์นี้ไปจนถึงวันที่ 6 พ.ค.ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ครอบคลุมวันหยุดฤดูใบไม้ผลิ ‘Golden Week’ หรือ ‘สัปดาห์ทอง’ จะเป็นโอกาสให้ประชาชน 13.4 ล้านคนในกรุงโตเกียวได้ “อยู่บ้านและรักษาชีวิต” 

อ้างอิง The Guardian/NHK