ไม่พบผลการค้นหา
ลำดับเหตุการณ์ 'ดีเจสาว' รับอุปการะลูกแมวจากคลินิก แต่ถูกน้องสาวสัตวแพทย์ที่คลินิกสงสัย เพราะไม่สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้หลังจากรับลูกแมวไป และเมื่อติดต่อได้กลับพบว่าลูกแมวตัวดังกล่าวตายแล้ว ทำให้มีคนตั้งข้อสงสัยว่า ดีเจสาวอาจรับอุปการะแมวเพื่อฆ่าแลก 'คอยน์' ในดาร์กเว็บ

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Issaraporn Samutgalin ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยในกลุ่ม "หาบ้านน้องหมา น้องแมว" เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2561 ว่า ได้ประกาศหาบ้านในลูกแมว และส่งมอบลูกแมวให้ผู้ที่ต้องการนำไปดูแลเป็นหญิงรายหนึ่ง ซึ่งแจ้งความประสงค์ที่จะรับลูกแมวไปเลี้ยงดู และได้เข้ามารับที่คลินิกเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนั้นไม่สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของลูกแมวได้อีก

โดยหญิงสาวที่มารับลูกแมวไป ปฏิเสธว่าไม่ได้รับลูกแมวไปเลี้ยง กระทั่งจับพิรุธได้หลายอย่าง ทำให้คาดการณ์ว่าหญิงคนดังกล่าวมีสภาพจิตใจไม่ปกติ จึงพยายามขอลูกแมวคืน และแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งในค่ำวันเดียวกันนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์แจ้งว่าหญิงสาวคู่กรณีรอพบอยู่ที่ สน.เพชรเกษม โดยนำลูกแมวมาในสภาพตายแล้วมาด้วย อีกทั้งยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ได้ทำร้ายสัตว์หรือฆ่าตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง

ต่อมามีผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หญิงคนดังกล่าวทำงานเป็นดีเจเปิดเพลงอยู่ตามผับ เคยขอรับอุปการะแมวจรจัดมาแล้วหลายตัว



ลูกแมว.jpg


เพจเพื่อหมา-แมว สงสัยเป็นการฆ่าสัตว์เพื่อแลกเหรียญในดาร์กเว็บ?

ด้านเพจ Watchdog Thailand โพสต์ความคืบหน้าของเรื่องนี้ว่า มีผู้ติดตามเรื่องราวนี้ที่เชี่ยวชาญโลกโซเชียลประเภทดาร์กเว็บ ชี้ข้อสงสัยว่า การกระทำของหญิงรายนี้เป็นการฆ่าสัตว์เพื่อแลกคอยน์หรือเหรียญในดาร์กเว็บ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผลการผ่าพิสูจน์ซากลูกแมวตัวดังกล่าว พบว่าสาเหตุการตายไม่ใช่เกิดจากอุบัติเหตุ พบร่องรอยถูกกระแทกที่หน้าผากจนเลือดคั่งและกะโหลกศีรษะแตก มีร่องรอยการกระทบกระแทกบริเวณช่วงอกทำให้เกิดการคั่งของเลือดที่หัวใจและปอด 

ซึ่งข้อมูลเรื่องดาร์กเว็บนี้เปิดเผยจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ Usar Cole SC (ขณะนี้เฟซบุ๊กนี้ไม่สามารถเข้าได้แล้ว) เปิดเผยว่า ดาร์กเว็บ ไม่ใช่เว็บที่คนปกติเข้าไปกัน และไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยเว็บเบราเซอร์ทั่วไป ใช้บิตคอยน์เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน 

ปศุสัตว์-เจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจคอนโดดีเจสาว ต้องสงสัยฆ่าลูกแมว

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา นายสัตวแพทย์สววิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงกรณีเพจ Watchdog Thailand โพสต์ข้อความดีเจสาวรับอุปการะลูกแมว 1 ตัวแต่ไม่เลี้ยงดู และพบว่าภายหลังลูกแมวตายเหลือแต่ซากโดนควักไส้และเครื่องในออก คาดว่าลูกแมวถูกฆ่าเพื่อแลกคอยน์ในดาร์กเว็บนั้น กรมปศุสัตว์ โดยนายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และรองโฆษกกรมปศุสัตว์ และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของ พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 ในคอนโดแห่งหนึ่งย่านธนบุรี โดยจากการตรวจสอบพบว่าเป็นที่พักของดีเจสาว เพื่อหาหลักฐานการกระทำผิดและช่วยเหลือแมวที่ยังเหลืออยู่ และจะนำไปฟื้นฟูสุขภาพต่อไป

ซึ่งจากการตรวจสอบ ไม่พบสัตว์และซากสัตว์ในห้องพัก พบเพียงอาหารแมว กระบะทรายแมว และทรายแมวที่ถูกเปิดใช้งานแล้ว เจ้าหน้าที่จึงทำการยึดอาหารแมวและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งมอบให้พนักงานสอบสวนใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบสวนเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมในการดำเนินคดี หากพบการกระทำผิดจะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างเด็ดขาด

จิตแพทย์ยังไม่ฟันธง 'ดีเจสาว' ป่วยทางจิตหรือไม่

ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์ระจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่า ผู้กระทำมีภาวะป่วยทางจิตหรือไม่ แต่ที่แน่ชัดคือ มีความผิดปกติในพฤติกรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำตัวมาตรวจสอบ ว่าการกระทำนั้นเกิดจากสาเหตุอะไร เกิดจากแรงจูงใจหรือจิตใต้สำนึก แต่ที่ตามข่าวระบุว่า เป็นเรื่องของเงื่อนไขสิ่งแลกเปลี่ยนในดาร์กเว็บ ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบให้ชัดเจน 

พนักงานสอบสวน รอสอบปากคำสัตวแพทย์ผู้ชันสูตรซากแมวว่ามีความเชี่ยวชาญหรือไม่

ด้านเว็บไซต์ข่าวมติชนรายงานว่า พ.ต.ท.ศุภชัย อ่วมประเสริฐ รอง ผกก.หัวหน้างานสอบสวน สน.เพชรเกษม กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ลำบากใจในการติดตามตัวผู้ต้องสงสัย เนื่องจากได้สอบปากคำเอาไว้ตั้งแต่เมื่อกลางดึกวันที่ 19 ต.ค. แล้ว โดยขณะนี้เจ้าตัวชี้แจงว่า ยังอยู่ในช่วงตระหนกตกใจจากเหตุการณ์ที่ถูกผู้เสียหายและกลุ่มองค์กรคนรักสัตว์ที่มาล้อมกรอบตอนเดินทางมาถึงโรงพัก และกระแสข่าวที่โดนโจมตีในโซเชียลมีเดีย ขอเวลาทำใจสักระยะแล้วจะเดินทางมาให้ปากคำเอง ซึ่งตอนนี้ในส่วนของพนักงานสอบสวนนั้นจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานด้านอื่นๆ อีกหลายอย่าง

โดยเฉพาะเหตุการณ์ตายของแมวนั้นเกิดขึ้นในท้องที่ใดและเพราะสาเหตุใด ที่สำคัญต้องสอบปากคำแพทย์ที่ชันสูตรศพแมวในเบื้องต้น ว่ามีฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการชันสูตรสามารถนำผลการตรวจและคำให้การมาประกอบสำนวนคดีได้หรือไม่ เนื่องจากทาง Watchdog Thailand ให้ข้อมูลว่า หากส่งซากศพแมวไปชันสูตรกับผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองนั้นจะต้องใช้เวลานานกว่า 2 เดือน