ไม่พบผลการค้นหา
ผู้นำจีนและผู้บริหารฮ่องกง ร่วมพิธีเปิดสะพานข้ามทะเลยาวที่สุดในโลก เชื่อมต่อฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างมานานกว่า 9 ปี แต่มีผู้วิจารณ์ว่ารัฐบาลจีนก่อสร้างสะพานเชื่อมฮ่องกงเพื่อหวังผลทางการเมืองการปกครองด้วย

สะพานข้ามทะเลแห่งใหม่นี้ เชื่อมต่อระหว่างเขตบริหารพิเศษฮ่องกง-เมืองจูไห่ในมณฑลกวางตุ้ง-เขตบริหารพิเศษมาเก๊า ใช้งบประมาณในการก่อสร้างมูลค่ากว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 660,000 ล้านบาท จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2561 นับว่าเป็นสะพานข้ามทะเลที่ยาวกว่า 55 กิโลเมตร และเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในโลก ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 9 ปี

สะพานดังกล่าวนี้จะเชื่อมระหว่างเมืองจูไห่ซึ่งอยู่ในฝั่งจีนแผ่นดินใหญ่ไปยังเขตบริหารพิเศษอย่างฮ่องกงและมาเก๊า ทั้งยังเป็นหนึ่งในแผนพัฒนาเขต Greater Bay Area ที่มีประชากรกว่า 68 ล้านคน ค��อบคลุมเมืองทางตอนใต้ของจีน 11 เมือง รวมไปถึงฮ่องกงและมาเก๊าด้วย

000_13B9EL.jpg

สะพานแห่งนี้จะช่วยลดเวลาในการเดินทางจากฮ่องกงไปยังจีนแผ่นดินใหญ่จากประมาณ 3 ชั่วโมง เหลือเพียง 30 นาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สะพานดังกล่าวไม่อนุญาตให้รถแท็กซี่และรถยนต์ส่วนบุคคลขับข้ามสะพานนี้ได้ แต่จะมีรถบัสที่ได้รับใบอนุญาตให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะออกจากสถานีขนส่งในฮ่องกงทุกๆ 5 นาทีในช่วงเวลาเร่งด่วน และทุกๆ 10 - 15 นาทีในเวลาปกติ ขณะที่รถบัสข้ามคืนจะออกจากฮ่องกงทุกๆ 15 - 30 นาที ส่วนค่าโดยสารจะอยู่ที่ 65 -70 ดอลลาร์ 2,145 - 2,310 บาท 

สะพานข้ามทะเลฮ่องกง - จูไห่ - มาเก๊า ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายในฮ่องกง เนื่องด้วยมีความกังวลว่านักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่จะทะลักเข้ามาในฮ่องกงเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมถึงในเชิงการเมือง หลายฝ่ายมองว่าสะพานดังกล่าวเป็นเครื่องมือของจีนในการเชื่อมโยงฮ่องกงกับจีนแผ่นดินใหญ่ เพื่อให้รู้สึก 'เป็นหนึ่งเดียวกัน' มากขึ้น หลังจากช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องการปกครองระบอบประชาธิปไตยในฮ่องกง ซึ่งสวนทางกับค่านิยมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

000_19V3WI.jpg

นอกจากนี้ สะพานดังกล่าวยังถูกโจมตีกรณีที่รัฐบาลฮ่องกงใช้งบประมาณมหาศาลในการร่วมก่อสร้าง คิดเป็นเงินกว่า 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 297,000 ล้านบาท ในขณะที่ประชาชนชาวฮ่องกงยังขาดแคลนที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก

การก่อสร้างสะพานดังกล่าวมีการใช้เหล็กกว่า 400,000 ตัน หรือคิดเป็น 4.5 เท่าของสะพานโกลเดนเกตในเมืองซานฟรานซิสโกของสหรัฐฯ และอาจส่งผลต่อระบบนิเวศบริเวณปากแม่น้ำเพิร์ล ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของโลมาแม่น้ำจีนที่เป็นสัตว์เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เพราะได้รับผลกระทบจากการขยายตัวของฮ่องกงและเมืองอื่นๆ ของจีน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลฮ่องกงได้จัดตั้งเขตเพาะพันธุ์โลมาและสัตว์น้ำอื่นๆ ในบริเวณแม่น้ำเพิร์ลเพื่อปกป้องสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว

ที่มา CNN /SCMP

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: