ไม่พบผลการค้นหา
ร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงในญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาขาดแคลนพนักงานกะกลางคืน ซึ่งส่งผลให้ในบางสาขายกเลิกการให้บริการ 24 ชั่วโมง

เซเว่น อีเลฟเว่นในญี่ปุ่น ประกาศจะหยุดการให้บริการแบบ 24 ชั่วโมงใน 8 สาขาโดยจะเริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ซึ่งทางเซเว่นฯ ให้เหตุผลว่า เซเว่นฯ กำลังประสบปัญหาขาดแคลนพนักงานในช่วงเวลาทำงานกลางคืน

นอกจากนี้ยังมีอีกกว่า 200 สาขา กำลังอยู่ในช่วงทดลองปิดให้บริการที่เร็วขึ้น ซึ่งทางเซเว่น อีเลฟเว่นระบุว่า 'เวลาปิดให้บริการนั้นจะขึ้นอยู่กับทางเจ้าของแฟรนไชส์แต่ละสขาเป็นผู้กำหนดเอง'

แนวคิดเรื่องการหยุดให้บริการแบบ 24 ชั่วโมงนั้นเริ่มจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเซเว่น อีเลฟเว่นในสาขาโอซะกะได้ปิดในช่วงเวลาเที่ยงคืนถึง 6 โมงเช้า เนื่องจากการขาดแคลนพนักงงาน ซึ่งขัดกับนโยบายหลักของบริษัท แต่อย่างไรก็ตามในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเซเว่น อีเลฟเว่นก็ยินยอมให้เซเว่นฯ ให้สาขาโอซะกะทำการเปิด-ปิด เวลาดังกล่าวได้

การขาดแคลนพนักกงานในการทำงานช่วงเวลากลางคืนนั้นไม่เพียงแต่เซเว่นฯ เท่านั้นที่มีปัญหา แต่ร้านสะดวกซื้ออีกก็ประสบปัญหาเช่นกัน ซึ่งทางด้านแฟมิลี่มาร์ทระบุว่า 'ที่ผ่านมาร้านเฟรนไชส์ของแฟมิลี่มาร์ท 612 แห่งหรือประมาณ 3.7 เปอร์เซ็นต์ของร้านค้าทั้งหมดนั้นได้ทดลองปิดให้บริการตามเวลาปกติ ไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมง'

ทางด้านฝ่ายประชาสัมพันธ์ของแฟมิลี่มาร์ทกล่าวว่า 'ทางบริษัทอาจจะตัดสินใจหยุดการให้บริการแบบ 24 ชั่วโมง หลังจากช่วงทดลองนี้'

ขณะที่ลอว์สัน (Lawson) กล่าวว่า ตอนนี้ลอว์สันมีประมาณ 100 สาขาที่หยุดให้บริการแบบข้ามคืน หรือ 24 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้ทางลอว์สันนั้นมีข้อแตกต่างจากแฟมมิลี่มาร์ทและเซเว่นฯ ซึ่งทางลอว์สันไม่ได้ทำสัญญากับผู้ประกอบการเฟรนไชส์ว่าจะต้องเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงตั้งแต่แรก และในช่วงปีใหม่นี้ร้านลอว์สันประมาณ 100 สาขาก็จะหยุดการให้บริการชั่วคราว เพื่อให้พนักงานหยุดเฉลิมฉลองในวันหยุดแห่งชาติ

ปัจจุบันสังคมญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงพนักงานร้านอาหารต่างๆ การก่องสร้างและการบริการด้านพยาบาล โดยตั้งแต่ปี 2014-2017 แรงงานในระบบลดลงกว่า 20 เปอร์เซ็นซึ่งเป็นผลพวงมากจากจำนวนประชากรที่ลดลงของญี่ปุ่น

รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานเหล่านี้ด้วยการให้วีซ่าสำหรับชาวต่างชาติมากขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เข้ามาทำงานในอุตสาหกรรมต่างๆและช่วยให้มีแรงงานในระบบมากขึ้น

ที่มา japantimes / nippon