ไม่พบผลการค้นหา
'ธรรมนัส' ยืนยัน 9 พรรคเล็กร่วมรัฐบาลต่อ ขาดแค่ 'มงคลกิตติ์' ลั่นรัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ เพราะมีมากกว่า 254 เสียง - เตรียมเสนอ 'ประวิตร' นั่งประธานยุทธศาสตร์ พปชร.บ่ายนี้

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ ภาคเหนือพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองขนาดเล็กเตรียมแยกตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ความจริงแล้วพรรคเล็กมี 13 พรรค โดยในกลุ่ม 10 พรรคมี 9 พรรคที่ยังยืนยันจะร่วมงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลต่อ มีเพียงนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เพียงพรรคเดียวเท่านั้น ที่ขอแยกตัวจากพรรคร่วม ส่วนอีก 3 พรรคที่เหลือ ทั้งพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย, พรรคพลังท้องถิ่นไทย และพรรคประชาชนปฏิรูปนั้น ยืนยันไม่มีปัญหาใด

ร.อ.ธรรมนัส ยังปฏิเสธกระแสข่าวที่นายกรัฐมนตรี นัดแกนนำพรรคเล็กรับประทานอาหารกลางวัน เพื่อปรับความเข้าใจกัน เนื่องจาก นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายตนไปพูดคุยแล้ว ที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยมาโดยตลอด พร้อมยืนยันด้วยว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำที่มีเพียง 254 เสียง แต่ยังมีมากกว่านี้  

ส่วนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนฯ ที่รัฐบาลแพ้โหวตนั้น ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงว่า ไม่ใช่เพราะเสียงปริ่มน้ำ แต่เป็นเพราะ ส.ส. ที่เป็นรัฐมนตรีติดภารกิจ และในการประชุมสภาครั้งต่อไป จะต้องเคร่งครัดต่อการทำหน้าที่มากกว่านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวอีก และส่วนตัวจะลงไปควบคุมเรื่องนี้เอง 

นอกจากนี้ ยังยืนยันกระแสข่าวที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง จะมาดำรงตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ โดยระบุว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ (13 ส.ค.) พรรคพลังประชารัฐ จะมีการประชุมเพื่อเสนอชื่อดังกล่าว และจะมีการเพิ่มจำนวนรองหัวหน้าพรรค เพื่อเป็นประธานยุทธศาสตร์ภาค และมั่นใจว่า หากพล.อ.ประวิตร มาดำรงตำแหน่งเป็นประธานยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐแล้ว จะทำให้พรรคเป็นเอกภาพ พร้อมยอมรับที่ผ่านมา แม้จะมีความเห็นต่างกันบ้าง แต่ก็มีการปรับความเข้าใจมาโดยตลอด แต่สำหรับนายกรัฐมนตรี ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ มา 

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการหารือของ 9 พรรคเล็กในช่วงบ่ายวันนี้ (13 ส.ค.) ว่า ส่วนตัวยังติดตามการทำงานของฝ่ายการเมือง ส่วนเรื่องที่มีบางพรรคขอถอนตัว หากเขาตัดสินใจแล้วก็ต้องให้ความเคารพ เพราะถือว่าเป็นสิทธิ ขณะที่สถานภาพของรัฐบาลที่มีเสียงในสภาค่อนข้างปริ่มน้ำ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ก็จะต้องอยู่ให้ได้ เพราะหากปล่อยให้มีการเคลื่อนไหวต่อรองในลักษณะนี้ต่อไปเรื่อยๆ จะทำให้เกิดความระส่ำระสายต่อสถานภาพของรัฐบาล แต่ไม่ขอตอบคำถามถึงกระแสข่าวที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปพูดคุยกับพรรคเล็กด้วยตัวเองในวันที่ 15 ส.ค.นี้ รวมถึงประเด็นที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเข้าไปเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ พร้อมขออย่านำเรื่องของคนอื่นมาถามตนเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง