ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบสัญญาเช่า โครงการบ้านของเรา ก้าวไปด้วยกัน เคหะร่มเกล้า-ลาดกระบัง 2 ลั่น ใครผิดให้ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม ทะเลาะเบาะแว้งกันบ้านเมืองไม่ได้อะไรขึ้นมา ตอกกลับกระแสวิจารณ์ ไม่มีใครคบ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงาน "บ้านของเรา ก้าวไปด้วยกัน" พร้อมส่งมอบสัญญาเช่าให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิเช่าโครงการเคหะร่มเกล้า 2 และโครงการเคหะลาดกระบัง 2 จำนวน 50 คน โดยมีนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้จัดงาน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าตนได้เห็นรอยยิ้มและใบหน้าของทุกคนก็มีความสุขด้วย ทำให้ตนมีกำลังใจ ตั้งแต่ตนเข้ามาทำหน้าที่ ตนคิดแต่เพียงว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความสุขมากยิ่งขึ้น ซึ่งการมีความสุขปัจจัยพื้นฐานนั้นมาจากที่อยู่อาศัย มีอาชีพ และมีรายได้ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐาน โอกาสเข้าถึงเท่าเทียมกันจากการดูแลของรัฐบาล ซึ่งจะต้องใช้เวลาพอสมควร ซึ่งรัฐบาลมีโครงการทั้งบ้านแบบเช่า และแบบเช่าซื้อ รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาบ้านริมคลองที่ทำให้ทุกคนมีความสุข รัฐบาลไม่ใช่ทำเพียงแค่ปัจจุบันแต่ทำไปถึงอนาคต โดยตั้งเป้าว่า ในปี 2579 คนไทยทุกคนต้องมีบ้าน

โดยนายกรัฐมนตรี เห็นจะรัฐบาลว่ามีปัญหาอยู่หลายด้าน รัฐบาลทำทุกอย่างเรื่องความเท่าเทียมในโอกาส ทุกคนมีโอกาสเท่ากันภายใต้กฎหมายเดียวกัน ในเรื่องของความเป็นธรรมผู้ที่มีรายได้น้อย รายได้ปานกลาง จะได้รับการดูแลนี่คือประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ซึ่งครั้งหนึ่งตนก็เคยมาแล้วที่ตลาดเกรียงไกร ก็เห็นรอยยิ้มมาโดยตลอดไม่เห็นมีใครหน้าบึ้งตึงสักคน หรือไม่ทำให้เห็นก็ไม่รู้ พร้อมกับยังระบุอีกว่า อย่าโกรธ อย่าโมโหตนเลย ตนพยายามทำทุกอย่างให้กับทุกคนในประเทศนี้ ไม่ใช่เฉพาะเคหะร่มเกล้า แต่ทุกคนต้องช่วยกันทำงาน บางหน่วยงานก็มีคนดีก็มีมากกว่าคนไม่ดี คนไม่ดีก็ต้องขจัดออกไปกฎหมายก็มีทุกตัวหา เพื่อจะหารือก็จะหาทางออกได้ทุกเรื่องดีกว่าทะเลาะเบาะแว้งทะเลาะกันไป บ้านเมืองก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา หลายประเทศในโลกยังมีความขัดแย้งอยู่สูง มีสงคราม แต่ประเทศเราไม่เคยมีเรื่องเหล่านี้แล้วมีแต่จะเกิดความขัดแย้งภายในชาติของเราเอง ซึ่งจะต้องนำตัวอย่างมาเป็นบทเรียน 

โดยในช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมา ตนนั้นนอนหลับสบาย ใครจะว่า ใครจะชม ก็เฉยๆ อ่านเพียงแต่เอกสาร แค่อ่านเอกสารก็ปวดหัวแล้ว ต้องมาอ่านเรื่องแบบนี้ไม่ไหว สุขภาพจิตเสีย ซึ่งก็มีคนขยันทำอยู่เรื่องพวกนี้ การทำงานรัฐบาลต้องลงไปทุกพื้นที่ ไม่มีพื้นที่ใดที่ละเว้น นี่คืองานที่ยากกว่าที่ผ่านมาที่มีการลงเฉพาะพื้นที่ 

"ผมไม่อ่านข่าวสารอะไรแล้ว แค่อ่านเอกสารก็ปวดหัวอยู่แล้ว ก็ปล่อยไป มีคนขยันทำ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า สิ่งสำคัญคือต้องมีความรักและความสามัคคี บ้านใกล้เรือนเคียงกัน สงสารตำรวจ ตำรวจเหนื่อยและตำรวจเองก็ต้องเป็นตำรวจที่ดี เมื่อก่อนคนไทยยิ้มแย้มแจ่มใส ตนไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นที่ทำให้เกิดความขัดแย้งกันมาก กฎหมายคือกฎหมาย ใครผิดกฎหมายต้องถูกดำเนินคดี ให้เป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการ วันนี้วิเคราะห์กันเองมากเกินไป ขอให้เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมและศาล เป็นผู้ดำเนินการในทุกๆ เรื่อง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

พร้อมกับระบุว่า เมื่อเสร็จจากภารกิจมอบหนังสัญญาบ้านแล้ว ยังมี ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอาหารและเกษตร แห่งสหประชาชาติ และคณะผู้แทนสหภาพธุรกิจ สหภาพยุโรป -อาเซียน มาเข้าพบ ซึ่งสวนทางกับบางคนที่ออกมาบอกว่าตนเองไม่มีคนอยากจะพบ ไปไหนคนก็เบื่อ

ทั้งนี้ รู้สึกเห็นใจข้าราชการที่เงินเดือนน้อย แต่ต้องซื้อบ้าน และผ่อนจ่ายโดยการหักเงินเดือน ที่มีเงินเดือน 20,000- 30,000 บาท แต่ถูกหักจนเหลือเงินเพียงเดือนละ 900 บาท ซึ่งตนเองอยู่ในระบบนี้มานาน รู้ปัญหาดี แต่ปัจจุบันให้จ่ายผ่านธนาคารโดยตรง ก็กลับไม่มีเงินจ่ายอีก จึงสั่งให้เร่งแก้ปัญหานี้ และได้พยายามทำมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ทุกคนก็ยังมีหนี้อยู่ แต่ต้องเป็นหนี้ที่สามารถชำระได้