ไม่พบผลการค้นหา
นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของ “ศึกเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์” ในวันที่ 24 ก.พ. 2562 ถนนการเมืองไทยเดินทางมาถึง “หัวเลี้ยวหัวต่อ” ที่สำคัญอีกครั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศที่จะเป็นผู้ชี้ชะตาอนาคตสังคมไทยว่า จะเลือกอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตยหรือระบอบเผด็จการที่มี 4 รัฐมนตรี ของรัฐบาล คสช. รอสืบทอดอำนาจให้ “นายกฯ คนหน้าเดิม” ผ่าน พรรคพลังประชารัฐ

กว่าจะถึงวันกาบัตร ความเคลื่อนไหวยิ่งประจักษ์ ไม่เพียงแต้มต่อใน รัฐธรรมนูญ 2560

แต่ยังมี มาตรา 44 แบ่งเขตเลือกตั้ง จนถึงโมเดลชง “ตัดโลโก้-ชื่อพรรค” ออกจากบัตรเลือกตั้ง

สอดรับการขยับของ “พรรคเพื่อไทย” ที่ไหวตัวทันในแผนการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารในคูหา จึงจัดตั้ง ศูนย์อำนวยการเพื่อติดตามกลโกงการเลือกตั้ง บนชั้น 5 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นผู้บัญชาการศูนย์กุมบังเหียน พร้อมเสริมคมด้วย “มันสมอง” ระดับ “เสนาธิการ” อย่าง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ร่วมเป็นหนึ่งในทีมงานคอยวางหมากสกัดกลโกงเลือกตั้ง

“เขากลัวแพ้เลือกตั้ง จึงยื้อเลือกตั้งออกไปเรื่อยๆ” พล.ท.ภราดร ออกตัวถึงเหตุที่ คสช. ยื้อเลือกตั้งเรื่อยมา ก่อนชี้ให้เห็นว่าในประเทศประชาธิปไตยแท้จริง รัฐบาลจะต้องยุบสภาให้มีการเลือกตั้งในช่วงที่ตัวเองได้เปรียบเพื่อให้กลับมาเป็นรัฐบาล

แต่ คสช. ไม่คิดเช่นนั้น อดีตเลขาธิการ สมช. วิเคราะห์ทันทีว่า แผนการยื้อเลือกตั้งไปเรื่อยๆ เพราะ คสช.ยังไม่มั่นใจจะสืบทอดอำนาจได้ และการเลือกตั้งครั้งนี้ 24 ก.พ. 2562 จะเกิดขึ้นจริง ด้วยเหตุปัจจัยบางอย่างที่ คสช. ไม่ต้องการให้ยืดออกไปอีก

“วอยซ์ออนไลน์” นัดหมาย เสธ.แมว ผู้ถอดหมวกข้าราชการประจำ ตบเท้าเข้าสังกัด “ทัพหลวง”ประชาธิปไตยอย่าง 'เพื่อไทย' พูดคุยในรายละเอียด “วอร์รูมสกัดโกง-ต้านเผด็จการ” หยุดวงจรสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร

ภราดร พัฒนาถาบุตร สมช พรรคเพื่อไทย DSC02458.JPG

เป้าหมายและโครงสร้าง วอร์รูมสกัดการทุจริตเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไร

จุดมุ่งหมายชัดเจนตามชื่อ เพื่อทำให้การต่อสู้คราวนี้ ที่คาดหวังจะให้ Free and Fair มีเสรีภาพ เป็นธรรม ยุติธรรม ถูกต้อง ตามความเป็นห่วงของพรรคว่า จะเกิดความไม่เป็นธรรม ยุติธรรม ขึ้นในการต่อสู้ระหว่างซีกประชาธิปไตย กับซีกขั้วตรงข้าม สถาการณ์ตอนนี้ตามที่ประเมินกันคือ ฝ่ายประชาธิปไตยเกรง และตระหนักมากที่สุด ว่า จะต้องเจอกับกลโกงการเลือกตั้ง

วอร์รูมจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับชั้น ระดับแรก เชิงนโยบายคือ ผู้อาวุโสเคยเป็นอดีต ส.ส. มีประสบการณ์ทางการเมืองสูง ท่านเหล่านี้ จะเป็นผู้ประเมินสถานการณ์ในภาพรวม คอยให้คำแนะนำ สิ่งที่ต้องระมัดระวังพึงตระหนักกลโกงจะมีอะไรบ้าง

ระดับถัดมา อำนวยการมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธานเป็นหลัก ในการอำนวยการตามสถานการณ์และแก้ปัญหาเหล่านี้ ตามการข่าว และตัวบทกฎหมาย เมื่อในในพื้นที่ที่การจับผิดจับโกง แล้วต้องไปร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายส่วนกลางนี้ ก็จะช่วยอำนวยความสะดวก ติดตามผลคดีทางกฎหมาย

ระดับสุดท้าย สำคัญที่สุด คือ อดีตผู้แทนราษฎรในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งจะมีเครือข่ายพี่น้องประชาชน มวลชนผู้ให้การสนับสนุน เป็นฝ่ายหลัก เพราะในพื้นที่จะเป็นจุดที่ทราบดีที่สุดว่า ตรงไหนล่อแหลม ที่จะถูกกลโกง เจ้าหน้าที่รัฐจะเอื้อประโยชน์ จะใช้เงินทอง ให้กับฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามฝ่ายประชาธิปไตย ในพื้นที่จึงเป็นจุดสำคัญที่สุด  

คงไม่ใช่เฉพาะพรรคเพื่อไทย ผมคิดว่า พรรคการเมืองในปีกประชาธิปไตยทั้งหมด มีความกังวล ตระหนักและกังวลใจ ตลอดเวลา สถานการณ์แบบนี้ อาจถูกโกงการเลือกตั้ง นี่จึงเป็นเรื่องที่เห็นพ้องต้องกัน ทุกพรรคคงมีมาตรการลักษณะนี้เช่นกัน แต่เนื่องจากพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ มาตรการและการอำนวยการจึงต้องมีรูปแบบเข้มข้นมากกว่าพรรครองๆลงมา

การตั้งศูนย์จับตากลโกงแบบนี้ ก็เพื่อป้องกันสกัดกั้นระงับยับยั้งกลโกงที่จะนำมาใช้ อันจะนำไปสู่ชัยชนะเพื่อการสืบทอดอำนาจ ดังนั้น มันจึงสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ถือเป็นเครื่องมือสำคัญของฝ่ายประชาธิปไตย ต่อการระงับยับยั้ง การสืบทอดอำนาจ

วอร์รูมเริ่มเดินเครื่องจับตากลโกงเลือกตั้งช่วงไหน

จะมี 2 ช่วง คือ ช่วงเตรียมการก่อนมีพ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง ส่วนวันที่ 12 ธ.ค.นี้ จะมีการจัดเตรียมสถานที่ คณะทำงาน อุปกรณ์การติดต่อสื่อสาร เทคโนโลยีการเชื่อมต่อประสานงาน จะเริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป เพื่อเริ่มกำหนดหัวข้อต่อการรับมือกลโกงการเลือกตั้ง เพื่อสื่อสารให้ฝ่ายในพื้นที่ตระหนักและระมัดระวังกับกลโกงที่อาจเกิดขึ้น

พอถึงช่วงประกาศ พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง การอำนวยการของศูนย์ก็จะมีความเข้มข้นในการปฏิบัติขึ้น เกาะติดตั้งแต่วันแรกของการหาเสียง จนถึงวันลงคะแนน สิ่งสำคัญที่สุดคือ การติดต่อสื่อสารกับพี่น้องประชาชน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการช่วยเหลือสนับสนุนต่อสู้กลโกงนี้ เพราะพี่น้องที่อยู่ในพื้นที่ก็จะถือว่าเป็นตาสับปะรด หูทิพย์ อาจได้ยินได้ฟังอะไรที่ล่อแหลม ส่อให้เกิดการโกง เราก็จะได้รู้ก่อนพูดง่ายๆคือ งานการข่าวที่ดีที่สุดจะมาจากประชาชน

หัวใจหลักจะอยู่ในพื้นที่ คือ ผู้แทนเขตเลือกตั้งที่จะลงส.ส. ก็จะมีพี่น้องในพื้นที่ที่ ศรัทธาระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนของฟากประชาชน มาช่วยเหลือพรรคเพื่อไทยในการสอดส่องกลโกง

ภราดร พัฒนาถาบุตร สมช พรรคเพื่อไทย DSC02497.JPG
"แคมเปญการเลือกตั้ง ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ถ้าจะเอาประชาธิปไตยก็ให้มาทางนี้ ไม่เอาเผด็จการก็ไปทางโน้น"

กกต.ก็มีกลไก “ผู้ตรวจการเลือกตั้ง” - ศูนย์ปราบโกง พรรคเพื่อไทยสะท้อนถึงความไม่มั่นใจใช่หรือไม่ จะทำงานเชื่อมโยงกับ กกต.อย่างไร 

เรามั่นใจ เพราะถือว่ากระบวนการคัดสรรผู้ตรวจการเลือกตั้งของ กกต.ที่ผ่านมา อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ แต่สิ่งเหล่านี้ ต้องร่วมมือกัน ผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ กกต.ตั้งมา คงไม่เพียงพอในการสอดส่องสายตาไปยังทั่วทุกคูหา ทุกพื้นที่ ทุกเวลาได้ สิ่งสำคัญที่สุดในซีกพรรคการเมือง ที่ต้องต่อสู้ในสนามเลือกตั้งกัน ก็คงต้องถือว่า เป็นภาระของทุกฝ่าย

แน่นอนว่า ไม่ใช่แค่ฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายตรงข้ามเอง ก็อาจจะมาจ้องจับผิดซีกประชาธิปไตยเหมือนกัน ถือเป็นเรื่องปกติในการต่อสู้ผ่านการเลือกตั้ง ถามว่าเชื่อมั่นกกต.หรือไม่ ตอบว่า เชื่อมั่น แต่เขายังมีข้อจำกัด ในเรื่องบุคลากร ดังนั้น จึงต้องร่วมมือซึ่งกันและกัน

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ทำงานติดตามสถานการณ์และอีกขาหนึ่งต้องส่งข้อมูลเหล่านี้ ทั้งปัญหา ข้อห่วงกังวล สถานการณ์ที่เกิดขึ้น สื่อไปยังให้กกต.ทราบในเบื้องต้นทันที ยิ่งการกระทำผิดชัดเจนยิ่งต้องส่งมอบหลักฐานให้ กกต.ทันที เพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีตามขั้นตอนของ กกต.ต่อไป

กลิ่นกลโกงโชยบ้างหรือยัง ล่าสุด 4 รมต. ก็ทำท่าพลิกลิ้นไม่ลาออก

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเลือกตั้งทุกยุคทุกสมัย จะเกิดกลโกงอยู่แล้ว แต่ความหนักหน่วงในครั้งนี้ พี่น้องประชาชนซีกประชาไตยมีความกังวล ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากรูปแบบมันเริ่มก่อตัวเห็นขั้นเห็นตอนชัดเจนว่า จะมีการสืบทอดอำนาจ เมื่อมีการสืบทอดอำนาจ ความกังวลในเรื่องกลโกง มันก็เลยหนักตามี้ประเด็นนี้ด้วย จึงเป็นเรื่องที่เราตระหนัก ต้องมีการหารือเพื่อนำไปสู่การแก้ไข

ต้องจับเนื้อหาสาระของเขา ตอนที่กฎหมายเลือกตั้งส.ส.ยังไม่มีสภาพบังคับ 4 รมต. ก็สามารถดำเนินการได้ แต่ถ้าในแง่จริยธรรมก็ไม่ควร แต่ด้วยสถานการณ์แบบนี้ เราคงไปคาดหวังจริยธรรมไม่ได้

ทว่าต้องคอยติดตามให้ดีต่อสิ่งที่พวกเขาสื่อออกมา ว่า มันจะเอื้อต่อพรรคการเมืองในอนาคตหรือไม่ แต่หากเข้าไปสู่ห้วงของการมีประกาศ พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งแล้วยังมีความล่อแหลม ปฏิบัติตัวไม่ถูกไม่ควร ตามกฎหมาย เราก็คงต้องใช้เป็นเงื่อนไขเพื่อแจ้งไปยังกกต.ให้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป

เฉลิม อยู่บำรุง พรรคเพื่อไทย A7839.jpg

(ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รับบทหัวหน้าทีมวอร์รูมต้านทุจริตเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย)

ต้องเกาะติดการสืบทอดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ยังถือ มาตรา 44 พ่วงกลไกรัฐ ทั้งยังไม่ชัดว่า จะลงในบัญชีนายกฯ หรือเป็นอีแอบ หรือไม่

ต้องจับตาเป็นพิเศษแน่ แล้วก็ต้องคอยสื่อสารกับกกต. และพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลาย ให้ช่วยเป็นหูเป็นตา ในกรณีที่เป็นเหตุคลุมเครือ อาจก่อเกิดกลโกง ไม่มีเสรีภาพ และเป็นธรรม ต่อปีกประชาธิปไตย ก็คาดหวังว่า กกต.จะทำหน้าที่ได้ดี สำคัญคือพี่น้องประชาชนต้องช่วยกันออกมาสอดส่องตะโกนกันเพื่อแจ้งทราบ มิเช่นนั้นปีกประชาธิปไตยจะเสียเปรียบพอสมควร

จะแบบไหนก็ขอให้มีความชัดเจน ไม่ว่าจะบอกว่าลงมา หรือบอกไม่ลงมา แต่สังคมก็เข้าใจว่า จะต้องลงมาอยู่แล้ว ฝ่ายประชาธิปไตยก็ไม่ได้กังวลอะไร ขอให้ชัดว่า จะออกมาหรือไม่ ถ้ามาก็ชัดเจนเรื่องสืบทอดอำนาจ ฝ่ายประชาธิปไตยก็ต้องขจัดขัดขวาง ซึ่งความชัดเจนนี้ จะทำให้ฝ่ายประชาธิปไตยมีความเข้มแข็ง แล้วก็ร่วมมือกันอย่างเต็มที่

ถ้าตอนนั้นชื่อพล.อ.ประยุทธ์ ปรากฏชัดขึ้นมาในบัญชีนายกฯของพรรคใดพรรคหนึ่งก็ตาม มันก็คือความชัดเจนของสถานการณ์ การเผชิญหน้าการต่อสู้ของ ซีกประชาธิปไตย และซีกการสืบทอดอำนาจ

พล.อ.ประยุทธ์ ควรแสดงตนออกมาให้เกิดความชัดเจน จะดีกว่าปล่อยให้คลุมเครือแล้วก็ ทำให้เป็นปัญหาไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ของประเทศไทย

ภราดร พัฒนาถาบุตร สมช พรรคเพื่อไทย DSC02464.JPG
"การตั้งศูนย์จับตากลโกงแบบนี้ ก็เพื่อป้องกันสกัดกั้นระงับยับยั้งกลโกงที่จะนำมาใช้ อันจะนำไปสู่ชัยชนะเพื่อการสืบทอดอำนาจ"

ช่วยประเมินจุดแข็ง-จุดอ่อน ที่ต้องเผชิญ

จุดอ่อนทางซีกเรา ไม่น่าปรากฏ กลับกันฝ่ายอำนาจรัฐต่างหากที่มีจุดอ่อนมากกว่า เพราะเชื่อว่า ความศรัทธาของพี่น้องประชาชน กับสถานการณ์แห่งข้อเท็จจริงในปัจจุบันนี้ ค่อนข้างจะเป็นปัญหา โดยเฉพาะเรื่องปากท้องจากทางเศรษฐกิจที่พี่น้องประชาชนยากแค้น ก็น่าจะเป็นสิ่งที่เอื้ออาทรต่อซีกประชาธิปไตย ที่พี่น้องประชาชนหวังว่า จะเข้ามาแก้ปัญหา ตรงนี้ทำให้

จุดแข็งของเราคือพี่น้องประชาชน ที่ต้องการให้เกิดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรรม เพื่อคาดหวังให้ฝ่ายประชาธิปไตยได้ชัยชนะ ฉะนั้นตรงนี้น่าจะช่วยเกื้อหนุนกัน เมื่อมองกลับกัน ก็จะกลายเป็นอุปสรรคของฝ่ายสืบทอดอำนาจ

ถ้าไม่โดนโกงเลือกก่อน ถึงตอนนี้พรรคเพื่อไทยมั่นใจกำชัยชนะเลือกตั้งถล่มทลายตามที่ ร.ต.อ.เฉลิมได้ประเมินหรือไม่  

สถานการณ์ตอนนี้ยังเชื่อมั่นในความเป็นไปได้ เนื่องจากมีความชัดเจนอยู่อย่างหนึ่งคือ ความลำบากของพี่น้องประชาชนในการทำมาหากิน ตรงนี้ จะเอื้อให้ซีกประชาธิไตย ที่ต่างเห็นพ้องต้องกันแล้วว่า ปัญหาของบ้านเมืองจะแก้ได้นั้น ต้องเริ่มจากที่รากของปัญหาคือ การปกครองในระบอบประชาธิปไตย

แคมเปญการเลือกตั้ง ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ถ้าจะเอาประชาธิปไตยก็ให้มาทางนี้ ไม่เอาเผด็จการก็ไปทางโน้น มั่นใจว่าฝ่ายประชาธิปไตยจะชนะ  “เลือกประชาธิปไตยหายอดยาก เลือกเผด็จการชาติล่มจม”

ภาพ - วิทวัส มณีจักร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง