ไม่พบผลการค้นหา
ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม อัดรัฐบาลช่วย SMEs ไร้ประสิทธิภาพ เสี่ยงทำ 20 ล้านคนเดือดร้อน ตกงาน ด้าน "โภคิน" แนะ แก้รัฐธรรมนูญ พร้อมเปิดทางทำกินก่อนอนุญาตภายหลัง

นายโภคิน พลกุล ประธานกรรมการยุทธศาสตร์ด้านนโยบายและแผนงานพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันนี้หลายท่านที่มาจากสภา SMEs มาถามว่าร่างกฎหมายสภา SMEsที่ยกร่าง แล้วนำมาให้ช่วยดู ส่งไปบรรจุวาระที่สภา ตอนนี้ไปถึงไหน ร่างกฎหมายนี้เกี่ยวกับการจัดให้ธุรกิจเล็กๆรวมตัวกันได้ สร้างมาตรฐานและสามารถดูแลกันเองได้ สามารถที่จะสะท้อนเสียงความต้องการให้กับทุกสัดส่วน รวมไปถึงภาครัฐบาลได้ ในวันนี้ถามว่าที่รัฐบาลบอกว่าอยากช่วย SMEs อย่างนั้นอย่างนี้ ส่วนตัวถามว่า ถามมาจากใครที่เป็นตัวแทน ถ้าคิดเองเออเอง ก็คงจะดำเนินการไม่ได้ตามจุดมุ่งหวังของประชาชนอย่างแน่นอน 

"อะไรที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน มันดูยากเย็นหมด ขั้นตอนเยอะทุกอย่างดูลำบากไปหมด แต่เวลาอำนาจนิยม หรือเผด็จการมา เพียงแค่ชั่วข้ามคืนทำได้หมด แต่ทำแล้วไม่ใช่ว่าดีขึ้น กลับสร้างภาระต่อไปอีก นี่คือสังคมไทยที่ปกครองโดยระบบอำนาจนิยม" 

นายโภคิน กล่าวต่อว่า ในวันนี้ประเด็นใหญ่มีแต่คนใช้เงิน คนหาเงินแทบไม่มี มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะติดลบแค่ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ แต่จากตัวเลขที่ทางแบงค์ชาติออกมาประกาศว่าติดลบ 8.1 เปอร์เซ็นต์ ส่วนตัวมองว่าครึ่งปีหลัง จะไม่มีอะไรดีขึ้น อย่างมากก็ทรงตัว นั่นหมายความว่าที่คาดการณ์ไว้มันผิดหมด และทุกอย่างก็จะเดินต่อไม่ได้ ความจริงเศรษฐกิจมีปัญหาตั้งแต่ก่อนที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แล้ว แต่โควิด-19 ทำให้ทุกอย่างแย่ไปมากกว่าเดิม แม้ต่อให้ไม่มีโควิด รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ผ่านมาในช่วง 6 ปี จะเห็นว่างบประมาณก็ขาดดุลตลอด ความสามารถในการจัดเก็บรายได้ก็หายไปต่ำกว่าเป้าทุกปี สรุปในตอนนี้ ก่อหนี้รวมจะ 10 ล้านล้านบาทแล้ว ซึ่งก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าจะหาเงินมาจากไหน 

ชี้ทางออกโดยร่างกฎหมายจากประชาชน

ส่วนตัวขอแนะแนวทาง ดังนี้ ให้ร่างกฎหมายดังกล่าวเขียนโดยประชาชน เพื่อปลดปล่อยให้ทุกคนที่ทำมาหากิน ได้ทำอย่างมีพลัง เสนอ 3 ปีนี้ ทำมาหากินโดยไม่ต้องขออนุญาต แต่ต้องทำให้ถูกกฎหมาย ให้รวมตัวกันได้ เพื่อดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน กำหนดมาตรฐานของเขาเอง สามารถบอกภาครัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ว่า ความต้องการเป็นแบบไหน และผู้บริโภคจะเสียเปรียบหรือไม่ ตนมองว่าถ้าทุกฝ่ายได้มาพูดคุย ปรึกษาหารือกัน ก็เชื่อว่าประเทศไทยจะมีพลังมหาศาล และทำให้ประเทศสามารถเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง

ผู้ประกอบการไม่สามารถเข้าแหล่งเงินทุน

ด้านประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย นายไชยวัฒน์ หาญสมวงศ ระบุว่ากฎหมายที่จะเข้ามาดูแลผู้ประกอบการซึ่งเคยพิจารณาส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ดำเนินการเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ถูกตีตกส่วนมาตรการของรัฐที่ ออกมาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องผู้ประกอบการ รวม 2 ก้อน กว่า 9 แสนล้านบาทนั้น พี่น้องผู้ประกอบการ ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ สอดคล้องกับการ อนุมัติเงินทุนในส่วนดังกล่าว จนถึงขณะนี้สามารถทำได้เพียง 2 แสนล้านบาทเท่านั้น 

"หมายความว่ารัฐมองไม่เห็น หรือไม่รู้ข้อมูลจริงๆว่าการพยายามจะเอาเงินส่วนนี้ไปช่วยเหลือผู้ประกอบการ แต่เงินมันไม่ถึงผู้ประกอบการ"

พร้อมระบุด้วยว่า สิ่งที่น่าตกใจ คือผู้ประกอบการ รายใหญ่อย่าง Alibaba Lazada หรือ WeChat กลายเป็น กลุ่มทุนที่สามารถปล่อยเงินช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการในประเทศไทย ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นประเด็นสำคัญว่าที่ผ่านมากว่า 6 ปีรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ซึ่งเคยประกาศไว้ว่า ประเด็นของ SMEs เป็นวาระแห่งชาติ แต่ที่ผ่านมาทุกคนจะเห็นว่าผู้ประกอบการในส่วนนี้กำลังจะตายไปเรื่อยๆ

ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทยระบุด้วยว่า กลุ่มคนที่อยู่ ในภาคของผู้ประกอบการขนาดกลางขนาดย่อมหรือขนาดเล็ก 7-8 ล้านราย และคนในส่วนนี้มีครอบครัว มีคนที่อยู่ทางบ้าน นั่นหมายความว่าจะเกี่ยวข้องกับประชาชนมากกว่า 20 ล้านคนที่ต้องเดือดร้อนต้องตกงาน จึงต้องการให้รัฐบาลรับรู้ถึงปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้น 

ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการต่อว่ารัฐบาล แต่กำลังตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดการช่วยเหลือ จึงไม่มีแนวทางที่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่อยู่ในระดับรากหญ้า พร้อมระบุด้วยว่า เงื่อนไขที่รัฐกำหนดไว้ กลายเป็นปัญหาที่ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถ เข้าถึงความช่วยเหลือต่างๆของภาครัฐได้

อ่านเพิ่มเติม