ไม่พบผลการค้นหา
เจ้าของแฟรนไชส์ ‘พิซซ่าฮัท’ และ ‘เวนดีส์’ รายใหญ่ในสหรัฐฯ ยื่นขอล้มละลาย หลังเจอวิกฤตโควิด-19 ระบาดที่ทำให้ต้องปิดสาขาร้านอาหารตามมาตรการป้องกันโรค

บริษัทเอ็นพีซี อินเทอร์เนชันนัล ได้ยื่นขอล้มละลาย หลังจากเจอมรสุมปัญหามากมาย อย่างการปิดร้านอาหารตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ภาระหนี้ 900 ล้านดอลลาร์ (ราว 27,985 ล้านบาท) ค่าแรงและค่าอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น และพิซซ่าฮัท ซึ่งเป็นแฟรนไชส์หลักของบริษัทเอ็นพีซีก็เริ่มขายไม่ค่อยดีนักในช่วงหลังมานี้ แต่ระหว่างที่บริษัทดำเนินการยื่นล้มละลาย ร้านอาหารของเอ็นพีซีก็จะยังเปิดให้บริการต่อไป 

บริษัทเอ็นพีซีเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ ‘เวนดีส์’ 385 สาขาจากทั้งหมดประมาณ 6,500 สาขาในสหรัฐฯ และแฟรนไชส์ ‘พิซซ่าฮัท’ จำนวน 1,225 สาขา จากทั้งหมด 7,100 สาขาในสหรัฐฯ โดยเว็บไซต์ของเอ็นพีซีเปิดเผยว่า บริษัทจ้างพนักงานประมาณ 36,000 คนใน 27 มลรัฐ เป็นพนักงานประจำ 7,500 คน และพนักงานพาร์ทไทม์ประมาณ 28,500

เอ็นพีซียื่นล้มละลายไม่นาน หลังจากที่บริษัทได้รับเงินช่วยเหลือจากบริษัท Yum! Brands เจ้าของแบรนด์พิซซ่าไม่เพียงพอ ถือเป็นสัญญาณเตือนว่าอุตสาหกรรมฟาสต์ฟู้ดในสหรัฐฯ กำลังประสบปัญหาหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ด้านโฆษกพิซซ่าฮัท เปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า พิซซ่าฮัทคาดการณ์ได้ว่าจะมีการยื่นล้มละลาย และพิซซ่าฮัทสนับสนุนที่บริษัทเอ็นพีซีจะเข้าสู่กระบวนการจัดการระดับหนี้สินให้ต่ำลงและยั่งยืนมากขึ้น และมุ่งเน้นไปที่การดำเนินการที่ยอดเยี่ยม และการลงทุนร้านอาหารในระดับที่ดีขึ้น การยื่นล้มละลายจะทำให้สุขภาพธุรกิจและประสิทธิภาพของระบบทั้งหมดเข้มแข็งขึ้นในระยะยาว

ขณะที่โฆษกเวนดีส์กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ร้านอาหารของเอ็นพีซีโดยทั่วไปทำได้ดีมาก และเอ็นพีซียังคงทำหน้าที่รับผิดชอบทางการเงินของตัวเองได้ดี จึงขอให้เอ็นพีซีเป็นสมาชิกที่สร้างผลผลิตที่ดีให้เวนดีส์ต่อไป โดยเวนดีส์จะทำงานร่วมกับเอ็นพีซีอย่างใกล้ชิดและสนับสนุนให้พวกเขาเดินหน้าต่อไป


ที่มา : CNN, Financial Times