นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวที่รัฐบาลอาจจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อดึงพรรคร่วมเข้ามาเพิ่มเติมซึ่งอาจจะกระทบต่อโควตาของพรรคชาติไทยพัฒนา ว่า สิ่งที่ตัวเองคำนึงที่สุดในตอนนี้คือภารกิจหน้าที่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเรามีอะไรก็ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เรื่องในอนาคตเชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะคำนึงถึงภารกิจหน้าที่ของรัฐบาลเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ ประเด็นทางการเมืองต้องหาความสมดุลให้ได้ ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาเมื่อได้รับมอบหมายให้ดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะได้เท่าไหร่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีไม่ได้มีการพูดคุยกันเพราะหากมัวนั่งคิดว่าจะถูกปรับออกหรือระแวงกันไปมา ไม่เกิดความคุ้มค่า เอาเวลาเหล่านี้มาทำงานให้ประชาชนดีกว่า หากวันใดต้องออกจากกระทรวงนี้ไปอย่างน้อยจะได้บอกตัวเองได้ว่าได้ทำงานให้กับประเทศชาติอย่างเต็มที่แล้ว 

เมื่อถามว่ากระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีเกิดจากมีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคไม่สามารถคุมเสียง ส.ส.ของพรรคตัวเองได้จนกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลนั้น นายวราวุธ ระบุว่า นี่เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเวลามีสภาผู้แทนราษฎรซึ่งไม่ใช่สิ่งใหม่ หรือเป็นอะไรที่แปลกประหลาดเพราะในอดีตก็เคยเห็นกันมาบางครั้งรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำก็ต้องมีมาตรการเพื่อรัดเข็มขัด มีความเข้มงวดในแต่ละพรรค และสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) ที่สภาผู้แทนราษฎรก็เป็นเพราะพรรคแกนนำรัฐบาลได้ขอความร่วมมือ ไปยังพรรคร่วมทุกพรรคเพื่อให้เข้มงวดกับสมาชิก ผลจึงออกมาเป็นที่น่าพอใจ

เมื่อถามว่าจะมีพรรคฝ่ายค้านมาร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายวราวุธ ระบุว่า เรื่องนี้ตอบแทนไม่ได้ แต่ตั้งแต่เล็กจนโตที่ตัวเองอยู่กับการเมืองไทยสิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่สิ่งใหม่ มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมาแล้วในอดีต เชื่อว่าการทำงานในสภาผู้แทนราษฎรอะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนการโหวตเมื่อวานนี้ที่ปรากฏมีงูเห่าจากซีกฝ่ายค้านเกิดขึ้นและถูกมองว่าพรรครัฐบาลมีการซื้องูเห่านั้น มองว่าเป็นความคิดที่ต่างคนต่างคิดได้ เพราะอาจจะได้รับข้อมูลบางอย่าง แต่ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนายืนยันว่าไม่มีงูเห่าเพราะพรรคมีเพียง 11 เสียงซึ่งทั้ง 11 เสียงก็โหวตไปในแนวเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาล