ไม่พบผลการค้นหา
กกต.ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาให้วินิจฉัยแจก 'ใบดำ-ใบแดง' ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 จันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เหตุปราศรัยใส่ร้ายอดีตสมาชิกพรรคถูกซื้อตัวไปอยู่พลังประชารัฐ พร้อมสั่งดำเนินคดีอาญาอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านกาญจนบุรีแจกเงินจูงใจเลือก ส.ส. พปชร. แต่ไม่มีหลักฐานเอาผิด ส.ส.

เว็บไซต์ สำนักงาน กกต. เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.กรณีมีมติยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาขอให้เพิกถอนสิทธิสมัคร สิทธิเลือกตั้งและดำเนินคดีอาญานายชาติชาย วรพิพัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดจันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 มาตรา 138 มาตรา 73 วรรคหนึ่ง ( 5) ประกอบมาตรา 159

โดยการตรวจสอบหลักฐานพบว่า ในการปราศรัยหาเสียงเมื่อวันที่ 10 มีนาคม เวลา 10.18 น. นายชาติชาย ได้ปราศรัย หาเสียงเลือกตั้งที่บริเวณตลาดวังพง ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี นายชาติชาย ได้จัดให้มีการเผยแพร่ภาพและเสียงผ่านทางเฟซบุ๊กชื่อ ชาติชาย วรพิพัฒน์ ด้วย การปราศรัยหาเสียงโดยใช้คำว่า “ส.ส.ประชาธิปัตย์คนเดิมทั้ง 3 คนได้ถูกซื้อตัวแล้วย้ายพรรคไปแล้ว...ยังมีตกแล้วอย่างน้อยต้องมี 70 ล้านขึ้น" ซึ่งผู้ร้องยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาผู้ร้องได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.จันทบุรี เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ย้ายมาสมัครในนามพรรคพลังประชารัฐ

การปราศรัยหาเสียงดังกล่าวของนายชาติชาย จึงหมายถึงผู้ร้องซึ่งอดีตเคยเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และต่อมาย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ จึงเป็นการใส่ร้ายผู้ร้องและทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจย้ายพรรคเพราะถูกซื้อตัว ละทิ้งอุดมการณ์เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน อันเป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จ จูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิดในคะแนนนิยม และจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้กับนายชาติชาย การกระทำของผู้ร้องจึงเข้าข่ายเป็นความผิด

ทั้งนี้ หากศาลฎีกามีความเห็นยืนตามที่ กกต.เสนอก็จะเป็นอีกกรณีหนึ่งที่มีผลต่อการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เช่นเดียวกับกรณีใบเหลืองของนายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส. เขต 5 สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ที่ขณะนี้ กกต.ได้มีการส่งคำร้องไปยังศาลฎีกาแล้ว ซึ่งหากศาลมีคำวินิจฉัยตามที่ กกต.ลงความเห็นจะมีผลให้ต้องคำนวณคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของทุกพรรคการเมืองใหม่ โดยตัดคะแนนของนายชาติชายออก ซึ่งในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม นายชาติชาย ได้คะแนน 19,711 คะแนน และนับคะแนนในการเลือกตั้งซ่อม เขต 5 สมุทรปราการ

กกต.jpg

ส่วนคำวินิจฉัยให้ดำเนินคดีอาญากับ นายไพรัตน์ สุขสถาพรชัย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 158 ประกอบมาตรา 73 วรรคหนึ่ง (1) จากกรณีมีหลักฐานเป็นคลิปบันทึกภาพและเสียงของพยานและคำให้การของพยาน ที่ยืนยันตามที่มีผู้แจ้งเหตุว่า วันที่ 23 มีนาคม 62 เวลา 20.30 น. ก่อนวันเลือกตั้งได้รับเงินจำนวน 600 บาทจากนายไพรัตน์ เพื่อจูงใจให้ผู้แจ้งเหตุและผู้มีสิทธิเลือกตั้งในบ้านรวม 3 คน ลงคะแนนเลือกตั้งให้กับ พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ผู้ถูกร้อง แต่ไม่มีพยานหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า พล.อ.สมชาย เกี่ยวข้องกับการกระทำของนายไพรัตน์ และ พล.อ.สมชาย ยืนยันว่าไม่รู้จักนายไพรัตน์ จึงยังฟังไม่ได้ว่า พล.อ.สมชายเป็นผู้ก่อ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้นายไพรัตน์กระทำการจึงให้ยุติเรื่องในส่วนที่ร้อง พล.อ.สมชาย