ไม่พบผลการค้นหา
กรมราชทัณฑ์รายงานไม่พบผู้ต้องขังติดโควิด-19 เพิ่ม ขณะที่ผลตรวจผู้ใกล้ชิด 43 รายผู้บัญชาการเรือนจำ นครนายก เป็นลบ อีก 1 ราย รอยืนยัน

พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในเรือนจำ ประจำวันที่ 2 เม.ย. 2563 ว่า กรณีเรือนจำจังหวัดราชบุรีพบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย นั้น ปัจจุบันได้ตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ซ้ำอีกครั้ง (หลังจากรักษาตัวที่ รพ.ราชบุรี) ยืนยันผลเป็นลบ (ไม่พบเชื้อโควิด-19) แต่ยังจัดให้อยู่ห้องแยกกักขังออกจากผู้ต้องขังทั่วไปอีก 14 วัน เพื่อให้เกิด ความมั่นใจกับทุกฝ่าย

ส่วนกรณีผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนครนายก ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงรักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูร จังหวัดนนทบุรี มีแพทย์ดูแลใกล้ชิด สำหรับผลการตรวจเชื้อโควิด-19 ของผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่สัมผัสใกล้ชิดและคลุกคลีกับผู้ป่วย จำนวน 43 ราย ผลการตรวจพิสูจน์ยืนยันเป็นลบ (ไม่พบเชื้อโควิด-19) ทุกราย แต่ยังคงต้องรอผลตรวจเชื้อโควิด-19 ของเจ้าหน้าที่อีก 1 ราย ซึ่งผลการตรวจจะแจ้งให้ทราบต่อไป

กรณีที่เรือนจำกลางปัตตานีและทัณฑสถานหญิงกลางแจ้งว่าผู้ต้องขังที่เข้าข่ายต้องสงสัยแห่งละ 1 รายนั้น เบื้องต้นทางเรือนจำได้ส่งผู้ต้องขังที่เข้าข่ายต้องสงสัยเข้ารับการตรวจโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว ผลการตรวจพิสูจน์ยืนยันผลเป็นลบ (ไม่พบเชื้อโควิด-19) ทุกราย

ในส่วนของ เรือนจำกลางเชียงราย เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก เรือนจำจังหวัดลำพูน เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง และเรือนจำอำเภอนาทวี ได้รายงานว่าได้รับผู้ต้องขังเข้าใหม่ โดยได้จัดห้องแยกกักขังออกจากผู้ต้องขังทั่วไป เพื่อเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด

สรุปสถานการณ์วันนี้มีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ภายในเรือนจำ/ทัณฑสถานทั่วประเทศ ยังคงมีจำนวน 2 ราย และเจ้าหน้าที่ 1 ราย รวมทั้งสิ้น 3 ราย เท่าเดิม 

ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์จะได้ติดตามสถานการณ์การเจ็บป่วยของผู้ต้องขังในทุกเรือนจำอย่างใกล้ชิดทุกวัน เพื่อจำกัดจำนวนผู้ต้องขังที่อยู่ในภาวะเสี่ยงและติดโรคระบาดนี้ให้น้อยที่สุด โดยได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและกรมควบคุมโรค รวมทั้งสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลแม่ข่ายต่างๆ อย่างใกล้ชิด