ไม่พบผลการค้นหา
'คารม พลพรกลาง' ถามตุลาการกับคณะรัฐประหารเอื้อประโยชน์กันหรือไม่ เหตุยึดอำนาจทุกครั้ง จะล้มฝ่ายนิติบัญญัติและบริหาร ไม่แตะตุลาการ พร้อมวอน ส.ส.ในสภาฯ เห็นชอบ ตั้ง กมธ.วิสามัญ ป้องกันรัฐประหาร

นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงการยื่นญัตติของนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่กับคณะ ที่ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อศึกษาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดการรัฐประหารขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งจะมีการนำเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ ว่า เป็นญัตติของพรรคอนาคตใหม่และเห็นว่าการรัฐประหารเป็นเรื่องที่เป็นปัญหากับบ้านเมือง ตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองตั้งแต่ 2475 จนถึงปัจจุบัน มีการยึดอำนาจทั้งหมด 13 ครั้ง และการทำรัฐประหารทุกครั้งได้สร้างเสียหลายด้าน ทั้ง ด้านราชการ ด้านการเมือง และด้านเศรษฐกิจ และมักอ้างเรื่องการทุจริต, ประชาชนแบ่งฝักแบ่งฝ่าย มาเป็นเหตุผลในการผู้ยึดอำนาจเสมอ

นายคารม กล่าวด้วยว่า การยึดอำนาจเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงว่าถ้าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีกจะทำอย่างไร ในเมื่อประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 ระบุว่า การยึดอำนาจหรือการล้มล้างการปกครอง ซึ่งเป็นความผิดทางอาญาที่มีโทษถึงขั้นเป็นกบฎ และรัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดไว้ว่าการได้อำนาจโดยไม่เป็นไปตามวิถีของรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งมิชอบ แต่ประเทศไทยยังไม่มีวิธีป้องกันไม่ให้เกิดการรัฐประหารในอนาคต

นายคารมย้ำว่า เป็นครั้งแรกที่มีญัตตินี้เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร จึงอยากส่งเสียงไปใน ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรว่า ควรมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้น เพราะการศึกษาในเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าคณะตุลาการ และคณะยึดอำนาจมีพฤติกรรมเอื้อกันอย่างไร เพราะการยึดอำนาจทุกครั้ง จะมาพร้อมกับการล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติและบริหาร แต่ยังคงไว้ซึ่งอำนาจตุลาการ