ไม่พบผลการค้นหา
'พิธา' ไม่รับร่าง พ.ร.บ. งบฯ ชำแหละเม็ดเงินแสนล้านรวมศูนย์จัดการน้ำไม่ตอบสนองประชาชน ชี้ทำแบบเดิมอีก 142 ปีไทยจึงจะมีน้ำเพียงพอ ด้าน ‘ประยุทธ์’ ย้ำจัดการน้ำต้องไม่ขาดแคลน ย้ำงบกลางต้องใช้กรณีจำเป็น ยืนยันไม่ทิ้งเกษตรกร ด้าน 'มงคลกิตติ์' ชงรัฐเก็บภาษีเด็กเอ็น - พริตตี้ -เปิดบ่อนคาสิโน สร้างรายได้เข้าประเทศ

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญเป็นพิเศษ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายไม่เห็นด้วยกับการจัดสรรงบประมาณของร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ในการบริหารจัดการน้ำกว่าแสนล้านบาทที่ไม่ตอบสนองกับความต้องการของประชาชน โดยหยิบยก 3 เหตุผลคือ 1.ไทยต้องใช้เวลากว่า 142 ปี รัฐจึงจะสามารถบริหารจัดการน้ำได้เพียงพอต่อความต้องการของประเทศอย่างเท่าเทียม ซึ่งตนเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศจะไม่สามารถได้เห็นวันนี้ 

นายพิธา ย้ำว่า ประเทศไทยไม่ได้ขาดแคลนน้ำ แต่ติดปัญหาในเรื่องประสิทธิภาพของการจัดการชลประทาน จากข้อมูล คือไทยมีปริมาณน้ำฝนกว่า 780,000 ล้าน ลบ.ม. แต่จัดการได้เพียง 102,000 ล้าน ลบ.ม. ไม่พอกับความต้องการใช้น้ำ 152,000 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่ลองรับน้ำทั้งหมด 320 ล้านไร่ ภาคเกษตร 149 ล้านไร่ แต่มีพื้นที่ชลประทานเพียง 30 ล้านไร่  

2. ในภาวะปกติงบประมาณน้ำสะท้อนความเป็นรัฐราชการรวมศูนย์ขาดการกระจายอำนาจ ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทันท่วงที

นายพิธา ยกตัวอย่างภัยแล้งและน้ำท่วมซ้ำซากที่จังหวัดขอนแก่น มีงบประมาณในสัดส่วนของกระทรวง 985 ล้านบาท แต่ในระดับจังหวัดขอนแก่นไม่มีงบประมาณเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำเลย ตนจึงตั้งคำถามว่าเหตุใด งบที่ผันไปจึงไม่กระจายสู่พื้นที่ให้หน่วยงานที่ใกล้ชิดกับประชาชนและบริหารพื้นที่เป็นผู็บริหารจัดการงบประมาณ ดังนั้นจึงเห็นว่าควรกระจายงบประมาณภาคกระทรวงไปสู่ระดับลุ่มน้ำ และท้องถิ่นให้มากขึ้น และ 3. ในภาวะวิกฤติงบประมาณในการเยียวยามากกว่าการเตรียมความพร้อมและเตรียมภัยก่อนวิกฤติ 

พิธา อนาคตใหม่ อภิปราย งบประมาณ สภา led-1.jpg

นายพิธา ชี้แจงว่า รัฐบาลใช้วิธีรักษาไปตามอาการมากกว่าที่จะป้องกันก่อนที่จะเกิดเหตุฉุกเฉิน ต้องรอให้เป็นโรคเสียก่อนแล้วจึงรักษา ซึ่งบประมาณปี 2563 ที่ไปโตในงบลงทุนและงบอุดหนุนหลังภาวะฉุกเฉินสูงถึง 83,520 ล้านบาท งบดำเนินงาน 12,530 ล้านบาท แต่งบที่จะใช้ในการป้องกันเพียงแค่ 720 ล้านบาท จึงสะท้อนให้เห็นว่างบในการบริหารจัดการน้ำในภาวะฉุกเฉินเน้นเยียวยาหลังเกิดเหตุมากกว่า ซึ่งงบประมาณเยียวยาก็มีความล่าช้า พร้อมยกตัวอย่าง น้ำท่วมซ้ำซากที่จังหวัดอุบลราชธานี หากดูข้อมูลการเตรียมการป้องกันของกรมต่างๆ เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในปี 2562 ใช้งบประมาณการแจ้งเตือนกว่า 173 ล้านบาท และในปี 2563 ใช้งบกว่า 426 ล้านบาท มากขึ้นกว่าสองเท่า แต่ตัวชี้วัดกลับอยู่ที่ 80 เปอร์เซ็นต์ ทั้งสองปี ตนติดใจ และขอถามไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องว่าเหตุใดใส่เงินเข้าไปเพิ่มขึ้นแต่ผลลัพธ์กลับเท่าเดิม

นายพิธา ย้ำอีกครั้งว่า เสื้อตัวเดิม ยาพาราใช้เหมือนกันทุกคนไม่ได้เพราะความหลากหลายทางนโยบายเป็นสิ่งจำเป็น ถึงเวลาที่เราต้องคิดนอกกรอบ มากกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาแบบเดิมๆ ควรนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิด 2 ท. คือ เท่าเทียมและเท่ากัน

ประยุทธ์ ประวิตร สภา งบประมาณ  d-1.jpg

นายกฯ ยัน รบ.จัดการน้ำต้องไม่ขาดแคลน ฉะ ส.ส.มุ่งตัดงบกลาง

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ กบช. ชี้แจงถึงการบริหารจัดการน้ำว่า มีการบูรณาการหลายหน่วยงาน และทำงานในรูปแบบคณะกรรมการเพื่อบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศ ซึ่งการแก้ไขปัญหาจะมองด้านใดด้านหนึ่งว่าอุทกภัยหรือภัยแล้งอย่างเดียวไม่ได้ แม้จะมีปริมาณน้ำฝนเพียงพอ แต่ปัญหาคือการบริหารจัดการกักเก็บน้ำอย่างไรไม่ให้น้ำท่วม และมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีแนวทางการบริหารจัดการน้ำว่า ต้องไม่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ซึ่งในกรณีจำเป็นเร่งด่วนก็ต้องใช้งบกลางแก้ไขทั้งสิ้น แต่สมาชิกหลายคนกับพยายามอภิปรายเสนอตัดงบกลาง แต่ปัญหาคือไม่มีทางแก้ไขได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากยังมีปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ของประชาชน ทั้งการพัฒนาระบบชลประทาน การจัดทำบ่อกักเก็บน้ำ รวมถึงการระบายน้ำออกทางฝั่งตะวันออกและตะวันตก เนื่องจากมีอุปสรรคเกี่ยวกับพื้นที่ของประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องคำนึงถึงด้วยเช่นกัน รวมถึงการแก้ไขปัญหาไม่สามารถทำได้ทีเดียวทั้งหมด เพราะงบประมาณไม่เพียงพอ 

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ทอดทิ้งเกษตรกร พยายามแก้ไขปัญหา แต่ต้องคำนึงถึงขั้นตอนที่ซับซ้อนด้วย จะเอาแต่หลักวิชาการอย่างเดียวมาแก้ปัญหาคงไม่ได้ ต้องเอาพฤติกรรมและความเป็นคนไทยมาพิจารณา เพื่อแก้ปัญหาแบบบูรณาการ รวมถึงขอให้ ส.ส.ไปพูดคุยกับประชาชนและหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วย หากสามารถดำเนินการได้ รัฐบาลก็มีงบประมาณแก้ปัญหาให้ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ทิ้งใครไว้ และมีเป้าหมายว่าจะทำอย่างไรให้มีพื้นที่ชลประทานมากขึ้นและน้ำจะไม่ท่วม

ประยุทธ์ ประวิตร สภา งบประมาณ tled-1.jpgมงคลกิตติ์ ไทยศรีวิไลย์ พลังธรรมใหม่ ระวี สภา ed-1.jpg

'มงคลกิตติ์' แนะรัฐบาลจัดเก็บภาษีเด็กเอ็น พริตตี้ เปิดบ่อนคาสิโน

ด้าน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ว่า ตลอดระยะเวลา 18 ปีที่ผ่านมาเราบริหารประเทศแบบข้าราชการประจำ เช้าชามเย็นชาม บางช่วงมีนักธุรกิจเข้ามาบริหารประเทศเหมือนจะดี แต่สุดท้ายก็ทำให้ครอบครัวกำไร ประเทศขาดทุน ส่วนตัวขอเสนอให้รัฐบาลวางแผนการจัดหารายได้เข้าประเทศเพิ่มเติม โดยขอเสนอ 2-3 วิธี คือ 1.จัดเก็บภาษี บังคับใช้กฎหมายเดิม นักการเมืองไม่ร่วมทุจริตกับการจัดเก็บภาษี เพิ่มโบนัสให้กับหน่วยงานจัดเก็บภาษี 2.เปิดบ่อนคาสิโน ถ้าเปิดเล่นจริงและออนไลน์จะนำรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท ต่อปี 3.จัดเก็บภาษีเด็กเอ็น พริตตี้ เพราะตัวท็อปราคามีรายได้ 100,000 - 150,000 ต่อเดือน คาดว่าถ้าจัดเก็บภาษีส่วนได้จะทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 90,0000 ล้านบาทต่อปี