ไม่พบผลการค้นหา
สปสช.เผยผลตรวจสอบทุจริตงบบัตรทองพื้นที่ กทม.รอบ 2 เบื้องต้นพบความเสียหาย 34 ล้านบาท ชี้เป็นพฤติกรรมสมคบคิดระหว่างหน่วยบริการ คลินิกและห้องแล็บ พร้อมจะเร่งสางปัญหาตรวจสอบทุจริตในคลินิก ทั้งหมดในพื้นที่ กทม.ให้แล้วเสร็จ ส.ค.นี้

นิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในฐานะคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ของคณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีหน่วยบริการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเป็นเท็จ สปสช. กล่าวถึงความคืบหน้าการเร่งดำเนินการเอาผิดกับหน่วยบริการทุจริตเงินบัตรทอง ว่าจากที่คณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ ได้ตรวจสอบเอกสารและหลักฐานการเบิกจ่ายค่าบริการเท็จ พบว่าคลินิกชุมชนอบอุ่น และแล็บที่ให้บริการตรวจทางปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ มีพฤติกรรม สมรู้ร่วมคิดกัน มีความจงใจทั้งปลอมข้อมูลผู้ป่วย จากไม่เคยรับการตรวจมาก่อน หรือ บิดเบือนข้อมูล ทั้งน้ำหนักส่วนสูง ถือว่าเป็นแล็บผี

อีกทั้งยังมีความผิดร้ายแรงเข้าข่ายการทำลายระบบสุขภาพ ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบสุขภาพ ทำลายความน่าเชื่อถือทางวิชาชีพโดยพบว่า มีประชาชนถูกสวมสิทธิหรือปลอมข้อมูลทางสุขภาพกว่า 200,000 คน สูญเสียโอกาสในการเข้าถึงบริการที่จำเป็น เช่น การถูกแอบอ้าง ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เมื่อระบบจะขึ้นว่ามีการรักษาแล้ว ก็เสียโอกาสไปทันที

นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการตรวจสอบคลินิกได้วางไว้ 5 ระยะ ได้แก่

ระยะที่ 1 มีการตรวจสอบ 18 คลินิก และ 2 คลินิกทันตกรรม และ 2 แล็บปฎิบัติการ ซึ่งตรวจสอบเสร็จแล้วและดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหายแล้ว

ระยะที่ 2 ตรวจสอบ 63 คลินิก และ 3 คลินิกทันตกรรม ซึ่งก็มีการดำเนินคดีอาญาแล้วเช่นกัน

ระยะที่ 3 ขยายการตรวจสอบ 107 คลินิก และ 95 คลินิกทันตกรรม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอยต่อของระยะ 2 และ 3

ส่วนระยะที่ 4 ตรวจสอบ การเบิกจ่ายบริการคัดกรองโรค 17 รายการ ขยายผลย้อนหลังปี 2553 และระยะที่ขยายการตรวจสอบคลินิกในปริมณฑล ในพื้นที่เขต 4, 5 และ 6

ทั้งนี้ คาดว่า ภายในเดือน ส.ค.นี้ จะเร่งตรวจสอบคลินิกชุมชนอบอุ่น 180 แห่ง และคลินิกทันตกรรม 180 แห่ง ให้แล้วเสร็จทั้งหมด

นพ.การุณย์ กล่าวว่า ขณะนี้ สปสช.ระดมทีมผู้ตรวจสอบทั้งจากส่วนกลางและพื้นที่จากต่างจังหวัดเข้ามาตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายบริการคัดกรองโรคทั้งหมดของหน่วยบริการ สามารถตรวจไปแล้วเกือบ 160,000 ฉบับ พบเอกสารไม่น่าเชื่อถือประมาณ 80,000 ฉบับ ซึ่งกรณีที่พบว่าเป็นการตกแต่งข้อมูลเป็นเท็จ และการสวมสิทธิ โดยเป็นการตรวสอบ และดำเนินคดีไปแล้ว 81 คลินิกชุมชนอบอุ่น 5 คลินิกทันตกรรม และ 2 แล็บ มีมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นในระยะที่ 2 ที่ยังตรวจสอบไม่แล้วเสร็จ อยู่ที่ประมาณ 34 ล้านบาท ซึ่งต้องเรียกเก็บเงินคืนทั้งหมด และดำเนินคดีทางกฎหมาย

สำหรับมูลค่าความเสียหายที่มีการเรียกคืนเงินนั้น จากการตรวจสอบคลินิกล็อตแรก คลินิก 18 แห่ง 2 คลินิกทันตกรรม มีมูลค่าความเสียหาย 72 ล้านบาท และล็อต 2 จำนวนคลินิก 66 แห่ง (คลินิก+ทันตกรรม 3 แห่ง) 34 ล้านบาท