ไม่พบผลการค้นหา
ผลสำรวจของสถาบันวิจัยด้านนโยบายสาธารณะของสหรัฐฯ ชี้ว่า เด็กในสหรัฐฯ เกือบ 1 ใน 5 ไม่ได้รับอาหารเพียงพอนับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 สะท้อนผลกระทบทางสุขภาพที่กว้างขวางยิ่งขึ้นจากวิกฤตนี้

'สถาบันบรูกกิงส์' (Brookings Institution) รายงานว่า ร้อยละ 17.4 ของบรรดาแม่ที่มีลูกอายุ 12 ปี หรือน้อยกว่านั้นบอกว่า ลูกๆ ของพวกเธอไม่ได้กินอาหารอย่างเพียงพอเนื่องจากไม่มีเงินที่จะซื้อหาได้ ซึ่ง 'ลอเรน บาวเออร์' หัวหน้าผู้วิจัยระบุว่า เป็นที่ชัดเจนว่าเด็กเล็กกำลังเผชิญความไม่มั่นคงทางอาหารในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในยุคสมัยใหม่

โดยความไม่มั่นคงทางอาหารในครัวเรือนที่มีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เพิ่มขึ้นประมาณ 1.3 เท่าจากปี 2561 ถึงปัจจุบัน และเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าของระดับความหิวโหยในเด็กช่วงวิกฤตการเงินปี 2551 โดยหัวหน้าผู้วิจัยเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มโครงการเพื่อความมั่นคงทางอาหารและขยายระดับผลประโยชน์ 

เมื่อเดือนที่ผ่านมาองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอย่าง 'ฟีดดิ้ง อเมริกา' (Feeding America) เตือนว่าเด็ก 18 ล้านคน อาจต้องเผชิญความหิวโหยในช่วงวิกฤตการระบาดใหญ่โควิด-19 เมื่อพิจารณาจากการตกงานที่ทำให้บรรดาครอบครัวต้องเข้าไปต่อคิวรับความช่วยเหลือจากธนาคารอาหาร

พร้อมกับยังระบุว่าตัวเลขสูงสุดก่อนหน้านี้คือระหว่างช่วงเลวร้ายที่สุดของเศรษฐกิจตกต่ำในปี 2552 ที่มีเด็ก 17.2 ล้านคน เผชิญความหิวโหยได้รับอาหารไม่เพียงพอ โดยฟีดดิ้ง อเมริกา ระบุว่าเด็กราวๆ 1 ใน 4 อาจเผชิญความหิวโหยในช่วงเวลานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโรงเรียนหลายแห่งต้องถูกปิดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส ซึ่งโรงเรียนถือเป็นที่พึ่งสำคัญของเด็กยากจน  

รายงานระบุว่า มีแรงงานอเมริกันอย่างน้อย 30 ล้านคน ที่ตกงานในช่วงการปิดกิจกรรมเศรษฐกิจเพื่อสกัดการระบาดของไวรัส รายงานอัตราการจ้างงานเดือนเม.ย. ที่คาดว่าจะเผยแพร่ในวันศุกร์นี้ถูกคาดว่าจะแสดงให้เห็นถึงอัตรการว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นถึงระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ หรือ Great Depression เมื่อศตวรรษที่แล้ว 

ทั้งนี้ เว็บไซต์ worldometers รายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดในสหรัฐฯ อยู่ที่กว่า 1.2 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 74,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์กังวลว่า อาจเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจบางอย่างในระยะยาว  

อ้างอิง CNA / VICE News