นายสมชัย เตชะพานิชกุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกไทย เปิดเผยว่า จากมาตรการภาครัฐเรื่องงดแจกถุงพลาสติก โดยจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 เดิมได้มีกำหนดเป้าหมายเกี่ยวกับการเลิกใช้ในปี 2565 แต่มีการรณรงค์ให้เลิกใช้เร็วขึ้น โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นฐานการใช้หลักประมาณร้อยละ 30 ของอุตสาหกรรม ส่งผลให้ผู้ผลิตถุงพลาสติกปรับตัวไม่ทันจนได้ผลกระทบ และอาจะต้องปิดกิจการลงในไม่ช้า โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็ก จากปัจจุบันที่มีผู้ผลิตในประเทศกว่า 450 ราย คิดเป็นมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท

ด้านนายณภัทร ทิพย์ธนกิจ รองนายกอาวุโส สมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกไทย ระบุว่า ทางสมาคมฯมีข้อเรียกร้องหลักๆอยู่ 3 ประเด็น คือ การขอให้รัฐเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ โดยการรับซื้อเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตถุงพลาสติกในราคาที่เหมาะสม เนื่องจากหากมีการปิดกิจการเครื่องจักรที่เหลืออยู่ไม่สามารถนำไปใช้ทำอย่างอื่นได้ นอกจากนี้จะต้องเข้ามาดูแลแรงงานในอุตสาหกรรมกว่า 6,000 คน ที่จะอาจจะต้องตกงาน เนื่องจากผู้ประกอบการไม่มีเงินจ่ายชดเชยตามกฎหมาย ทั้งนี้ต้องการให้ภาครัฐเปิดให้มีการใช้ถุงพลาสติกอย่างเสรีตามความสมัครใจของผู้บริโภค เช่น หากผู้ที่ต้องการจะใช้ถุงพลาสติกจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม ไม่ใช่ให้ยกเลิกการใช้ เพราะเชื่อว่าพลาสติกไม่ใช่สาเหตุทำลายโลกและธรรมชาติ แต่เป็นคนใช้ที่ไม่มีจิตสำนึกมากกว่า