ไม่พบผลการค้นหา
รอบสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายประเทศที่ (เคย) ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ กลับมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีกครั้ง ท่ามกลางความกังวลในเรื่องการระบาดระลอก 2 ด้าน WHO ชี้ไม่มีที่ใดปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมีจำนวนผู้ติดเชื้อเหลือศูนย์ หรือมีจำนวนลดต่ำลงมากๆหลังจากผ่านช่วงการระบาดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมานั้นกลับพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการระบาดในระลอกสอง

11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางการเมืองปักกิ่งของจีนพบกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จากตลาดซินฟาตี้จำนวนกว่า 50 รายหลังจากที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อในปักกิ่งมานานกว่า 55 วัน ทำให้ทางการเมืองปักกิ่งสั่งปิดตลาดและกักตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับตลาดและผู้ที่มีประวัติการเดินทางไปยังตลาดตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย.หลายแสนราย 

ขณะที่ในวันนี้ (18 มิ.ย.) ครบรอบ 7 วันที่ผ่านมาของการระบาดอีกครั้งในปักกิ่งพบผู้ติดเชื้อรายใหม่แล้วมากกว่า 150 ราย และ 95 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อใหม่มีการไม่รุนแรง

ทางการปักกิ่งได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอีกครั้ง มีการประกาศยกเลิกเที่ยวบินถึง 2 ใน 3 ของเที่ยวบินทั้งหมดหรือกว่า 1,255 เที่ยวบินตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา (17 มิ.ย.) รวมถึงมีการสั่งปิดโรงเรียน ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มอีกหลายพันร้านและตลาดอีกกว่า 11 แห่งถูกสั่งปิดเช่นกัน

ขณะที่ชุมชนกว่า 30 แห่งในปักกิ่งถูกทางการสั่งห้ามประชาชนเข้า-ออกในพื้นที่และมีการตรวจหาเชื้อโควิดไปแล้วกว่า 356,000 ราย ซึ่งทุกคนล้วนเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องและมีประวัติการเดินทางไปยังตลาดซินฟาตี้และเป็นแรงงานที่ทำงานอยู่ในตลาดดังกล่าว 

นอกจากปักกิ่งแล้วยังมีรายงานการระบาดภายในประเทศเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในมณฑลเหอเป่ยและทางภาคตะวันออกของมณฑลเจ้อเจียง 

ขณะที่เมืองเทียนจิน ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของปักกิ่งก็พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศเช่นกัน โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเทียนจินนั้นเป็นพนักงงานโรงแรม และไม่มีประวัติการเดินทางออกนอกเมืองเทียนจินในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนที่จะแสดงอาการป่วย 

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เมืองเทียนจินได้เร่งติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องและใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อรายนี้ซึ่งคาดว่ากรณีของผู้ติดเชื้อรายนี้อาจจะกลายเป็นต้นตอของการระบาดครั้งใหม่ในเทียนจินได้

นิวซีแลนด์พบผู้ติดเชื้อใหม่ หลังประกาศชัยชนะไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศ

ขณะที่ตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่ผ่านมานิวซีแลนด์พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ของประเทศ หลังจากที่ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิดภายในประเทศเป็นระยะเวลานานกว่า 24 วัน โดยทางการนิวซีแลนด์ระบุว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 รายนั้น เป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศทั้งสิ้น

ทางการนิวซีแลนด์ได้ติดตามผู้ที่มีประวัติใกล้ชิดและสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ซึ่งมีมากกว่า 300 ราย และทุกรายจะต้องกักตัวและได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสทั้งหมด หลังจากมีการสืบสวนพบว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 รายแรกนั้นได้มีการติดต่อกับผู้คนต่างๆ ขณะที่เดินทางจากเวลลิงตันไปยังโอ๊คแลนด์เพื่อไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ป่วยหนัก

ด้านตำรวจนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า มีผู้ที่หนีออกจากสถานที่กักตัวที่รัฐบาลนิวซีแลนด์จัดไว้ให้ถึง 6 รายหลังจากได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมพิธีศพที่ฮามิลตันและเข้าร่วมงานวันเกิด

ขณะที่นางจาซินด้า อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ กล่าวว่า จะให้กองทัพเข้ามาดูแลการกักตัวของผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่งตามมาตรการของนิวซีแลนด์ผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศจะต้องถูกกักตัว 14 วัน และเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 2 ครั้งก่อนได้รับอนุญาตให้กลับไปอยู่ร่วมในชุมชนหากปราศการติดเชื้อ

ทั้งนี้เมื่อต้นเดือน มิ.ย. รัฐบาลนิวซีแลนด์ประกาศให้นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ปลอดจากผู้ติดเชื้อภายในประเทศและมีการลดระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด โดยอนุญาตให้ร้านค้า ร้านอาหารและผับ บาร์กลับมาให้บริการได้อีกครั้ง รวมถึงอนุญาตให้ประชาชนสามารถกกลับมาอยู่ร่วมกันได้อีกครั้งเช่นกัน

WHO ชี้ไม่มีที่ใดปลอดภัยจากโควิด-19

ดร.ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการหน่วยฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ไม่มีสถานที่ใดในโลกที่มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เท่ากับศูนย์ หากมีการเดินทาง การแพร่เชื้อนั้นอาจจะเกิดขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น และต้องลดความเสี่ยงให้ได้ต่ำที่สุดและส่งผลกระทบให้น้อยที่สุด

ขณะที่หลายประเทศในยุโรปเริ่มเปิดพรมแดนในการเดินทางระหว่างประเทศอีกครั้ง เพื่อท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน และในสหรัฐฯ หลายรัฐเปิดให้สามารถท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆรวมถึงการไปชายหาดและสวนสาธารณะมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพ.ค.

ทางด้าน ดร.เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการ WHO กล่าวว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นวันละมากกว่า 100,000 ราย และหลายประเทศมีแนวโน้มของการระบาดซ้ำอีกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังในความเป็นไปได้ในการกลับมาระบาดอีกครั้ง โดยเฉพาะในอเมริกาและเอเชียใต้

ปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดทั่วโลกมากเกือบถึง 8.5 ล้านคน โดยสหรัฐฯยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดกว่า 2.1 ล้านคน ขณะที่บราซิลก็พบผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 1 ล้านคน

ที่มา The guardian / CNA / VOA / CGTN

ข่าวที่เกี่ยวข้อง