การเมือง
'สมยศ' ปลุกทุกฝ่ายไม่นิ่งเฉยอุ้มฆ่าคนเห็นต่าง ไม่หวั่นหมายเรียกขัด พ.ร.ก.ฉุกกเฉิน
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เเกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจมีหมายเรียกผู้จัดกิจกรรมทวงคืนความยุติธรรมให้นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวกิจกรรทางการเมือง ซึ่งถูกอุ้มหายตัวในประเทศกัมพูชาว่า ตำรวจส่งหมายเรียก ข้อหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เอาผิดตนกับพวกรวม 6 คนให้รายงานตัววันที่ 17 มิ.ย.นี้ หลังจัดกิจกรรมผ่านไปไม่ถึง 1 สัปดาห์ สะท้อนความเร่งรีบและใช้อำนาจโดยไม่สุจริต ซึ่งพิสูจน์ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีไว้เพื่อรักษาอำนาจรัฐบาลเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อจัดการปัญหาโควิด - 19 และยิ่งทำให้เชื่อได้ว่าอำนาจรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณี "อุ้มวันเฉลิม" และอื่นๆ เพราะแทนที่ตามหาตัว หรือเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษในหลายคดีที่มีการ "อุ้มฆ่า" และทำร้ายนักกิจกรรม กลับมาดำเนินคดีผู้เรียกร้องความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ตนไม่หวั่นไหว และจะพิจารณาฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องด้วย
นายสมยศ ย้ำว่า การรัฐประหารเป็นเหตุให้นายวันเฉลิม ที่ถือเป็นเยาวชนที่ทำประโยชน์ต่อสังคมมาอย่างต่อเนื่องต้องลี้ภัยและเผชิญชะตากรรมที่โหดร้ายนี้ รวมถึงผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ ด้วย ทำให้ประเทศไทยเป็น "รัฐมาเฟีย" ภายใต้ผู้นำคนเดิมต่อเนื่องมา ที่ใช้ความกลัวในการปกครองและใช้กฎหมายทำลายผู้เห็นต่างรวมถึงใช้ในการปกปิดอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจากอำนาจรัฐอันป่าเถื่อนยิ่งกว่า "ยุคสฤษดิ์" ที่มีการประหารชีวิตฝ่ายตรงข้าม แต่อย่างน้อยก็ได้ร่ำลาครอบครัวและได้กินข้าวมื้อสุดท้าย แต่การ "อุ้มฆ่า" ยุคนี้ นอกจากอำมหิตและสร้างความกลัวแล้ว ยังทิ้งความทุกข์ทรมานให้ครอบครัวเหยื่ิออย่างมหาศาล
นายสมยศ ระบุด้วยว่า การมีมวลชนที่สนับสนุนอำนาจเผด็จการ ชอบการปกครองแบบจารีต มาสะใจหรือเห็นด้วยกับการอุ้มฆ่าผู้เห็นต่างที่ต้องการประชาธิปไตยอย่างโหดเหี้ยม ทั้งๆที่ชอบอ้างเรื่องศีลธรรมและความเป็นเมืองพุทธ เดือดร้อนกับ "สุนัขตาย" มากกว่าคนด้วยกันนั้น นอกจากย้อนแย้งแล้ว ยังสะท้อนว่าสังคมนี้ป่วยและผู้ป่วยมานาน อย่างน้อยก็นับแต่มีการบอกว่า "ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป" ใน "อาชญากรรมรัฐ 6 ตุลา 2519"
จึงเรียกร้องทุกภาคส่วนว่าไม่ควรนิ่งเฉยต่อการอุ้มฆ่าผู้เห็นต่าง ส่วนผู้เคยหลงผิดสนับสนุนรัฐเผด็จการแล้วกลับใจ ก็ควรแสดงความสำนึกผิด ด้วยออกมาแอคชั่นให้มากๆ ซึ่งการออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมและความรับผิดชอบในเรื่องนี้ คือการเข้าสู่ "ศีลธรรมขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์" แม้ยังไม่ต้องพูดถึงหลักสิทธิมนุษยชนเลยด้วยซ้ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
