ไม่พบผลการค้นหา
"พุทธิพงษ์" ระบุ สมช.หารือวาระปกติ ไม่ได้มีประเด็นประเมินสถานการณ์หลังยกเลิกเคอร์ฟิว พร้อมยืนยันพรรคพลังประชารัฐไม่ได้มีปัญหาหนักเหมือนที่เป็นข่าว ย้ำประชุมพรรคศุกร์นี้ (19 มิ.ย.) เพื่อเตรียมรองรับการประชุมใหญ่สามัญพรรคเดือนหน้า ชี้ "ม.ร.ว.จัตุมงคล" ลาออกไม่กระทบความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาล

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระบุหลังการประชุม สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.ว่า เป็นการประชุมเรื่องความมั่นคงที่หน่วยงานเกี่ยวข้องเสนอขึ้นมาและไม่ได้มีเรื่องเกี่ยวกับการประเมินสถานการณ์โควิด-19 หลังยกเลิกเคอร์ฟิว แต่เป็นไปตามวาระปกติที่ฝ่ายความมั่นคงเสนอเรื่องขึ้นมา

นายพุทธิพงษ์ ยังระบุถึงการประชุมพรรคพลังประชารัฐในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ ว่า เป็นการประชุมรักษาการกรรมการบริหารพรรคที่จะได้พบหารือกันหลายคน และยืนยันว่าพรรคไม่ได้มีปัญหาหนักหนาเหมือนที่เป็นข่าว และเป็นเรื่องที่สามารถพูดคุยกันได้ โดยจะเป็นการประชุมเพื่อเตรียมการรองรับการประชุมใหญ่สามัญของพรรค

ทั้งนี้การประชุมไม่เกี่ยวข้องกับการระบุตัวบุคคลที่จะเป็นกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เนื่องจากดำเนินการใดๆ ต้องเป็นไปตามข้อบังคับพรรค ซึ่งมี ส.ส.และสมาชิกพรรค แต่จะเน้นเรื่องของการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเสนอชื่อและตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 

พร้อมย้ำว่าการดำเนินการของพรรคไม่เกี่ยวกับเรื่องของการปรับคณะรัฐมนตรีเพราะเป็นเรื่องที่ดำเนินการในส่วนของพรรคเอง ทั้งนี้ขอยืนยันว่าภาพรวมทั่วไปของพรรคเป็นไปด้วยดี เพราะพรรคการเมืองทุกพรรคเมื่อถึงเวลาช่วงหนึ่งก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนทั้งผู้บริหารและการวางแผนยุทธศาสตร์ เพื่อรองรับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน

ส่วนกรณี ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลาออกจากหัวหน้าพรรค รวมพลังประชาชาติไทย จะส่งผลต่อการทำงานของคณะรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายพุฒิพงษ์ ย้ำว่า เป็นเรื่องภายในพรรครวมพลังประชาชาติไทยเอง คงไม่เข้าไปก้าวก่ายระบบและวิธีการทำงานรวมทั้งการคัดสรรของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล จะเน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี 

ส่วนจะมีการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรี ในสัดส่วนของพรรครวมพลังประชาชาติไทยหรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องของพรรคที่จะส่งใครเข้ามา

เตรียมขอจัดสรรจากงบฯเงินกู้ 4 แสนล้าน ช่วยผู้จบการศึกษาใหม่

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ระบุถึงแนวทางการทำงานของกระทรวงในการช่วยแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ว่า ในส่วนของกระทรวงเร่งของงบประมาณจากเงินกู้ 4 แสนล้านบาท ในการสร้างอาชีพ โดยเฉพาะในกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ และจบมาแล้ว 2-3 ปี ที่ได้รับผลกระทบในช่วงสถานการณ์โควิด-19 มุ่งเน้นการติดอาวุธทางความรู้เกี่ยวกับดิจิทัล ด้วยการให้มาศึกษาหาความรู้พิเศษในด้านดิจิทัลเบื้องต้นจะรองรับประมาณ 5 หมื่นคน มีค่าตอบแทนคนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน โดยระหว่างการเรียนจะต้องสามารถส่งงานและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดต่อประสานงานได้ 

ทั้งนี้ต้องรอการจัดสรรงบประมาณจากเงินกู้ 4 แสนล้านบาทก่อน จึงจะกำหนดกรอบรายละเอียดเพื่อเดินหน้าโครงการและหากได้ผลดีจะขยายกลุ่มจำนวนออกไป