ไม่พบผลการค้นหา
จีนเปิดสำนักงานความมั่นคงใหม่ในฮ่องกงซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่เป็นข้อถกเถียง ขณะที่ ‘เจิ้งเอี้ยนสง’ เจ้าหน้าที่สายเหยี่ยวที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยงานดังกล่าวให้สัญญาว่าเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานจะไม่ละเมิดสิทธิของประชาชน

พิธีเปิดสำนักงานความมั่นคงใหม่ในฮ่องกงมีขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยมี ‘แคร์รี หล่ำ’ ผู้บริหารสูงสุดของเกาะฮ่องกง และ ‘เจิ้งเอี้ยนสง’ เจ้าหน้าที่สายเหยี่ยวที่รัฐบาลจีนแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยงานแห่งนี้เข้าร่วมท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้ม โดยสำนักงานชั่วคราวนี้ตั้งอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในย่านคอสเวย์เบย์ ย่านการค้าถัดจากวิกตอเรียพาร์ก ซึ่งมักเป็นจุดรวมตัวชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง

สำนักงานความมั่นคงแห่งใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติสำหรับฮ่องกงที่ทำให้การวิจารณ์รัฐบาลจีนเป็นเรื่องผิดกฎหมาย โดยก่อนหน้าที่จะมีการผ่านกฎหมายนี้ฮ่องกงถือเป็นเพียงส่วนเดียวของจีนที่ไม่มีการบังคับใช้นโยบายดังกล่าว ซึ่งกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับนี้พุ่งเป้าไปที่การกระทำที่เข้าข่ายแบ่งแยกดินแดน บ่อนทำลายและการก่อการร้าย โดยมีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต สร้างความกังวลให้ฝ่ายที่คัดค้านกฎหมายว่านี่จะทำให้เสรีภาพการแสดงออกของประชาชนในฮ่องกงหมดไป อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ระบุว่านี่จะช่วยฟื้นฟูเสถียรภาพหลังเกิดการประท้วงรุนแรงขึ้น

โดยนายเจิ้งเอี้ยนสงระบุว่า กฎหมายฉบับนี้ถูกออกมาเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน และเจ้าหน้าที่จะทำหน้าที่และใช้อำนาจเพื่อปกป้องความมั่นคงแห่งชาติให้สอดคล้องกับกฎหมายดังกล่าว รวมถึงให้สัญญาจะไม่ละเมิดสิทธิของประชาชน

รายงานระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจากจีนแผ่นดินใหญ่เข้ามาประจำที่ใจกลางเกาะฮ่องกง เจ้าหน้าที่ซึ่งประจำในสำนักงานใหม่แห่งมีอำนาจในการสอบสวนประชาชนในอาชญากรรมหลากหลายข้อหาที่ถูกจำกัดความโดยกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับนี้ และมีความเป็นไปได้ที่จะส่งตัวผู้ต้องหาข้ามแดนไปรับการไต่สวนในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งศาลในจีนนั้นถูกควบคุมโดยพรรคคอมมิวนิสต์

ทั้งนี้ การออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติดังกล่าวถูกมองว่าทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวางต่อภูมิทัศน์การเมืองฮ่องกงนับตั้งแต่ถูกส่งมอบคืนสู่จีนเมื่อปี 2540 โดยกฎหมายนี้ถูกประณามจากนานาชาติว่าบ่อนทำลายเสรีภาพในฮ่องกงที่ถูกรับรองโดยหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ซึ่งหลังจีนผ่านกฎหมายนี้ไม่กี่วันก็มีรายงานว่า แกนนำคนสำคัญหลายคนในขบวนการประท้วงต้านรัฐบาลจีนได้เดินทางออกจากฮ่องกงหรือไม่ก็ปิดบัญชีโซเชียลมีเดียของตัวเอง ส่วนบริษัทสื่อสังคมออนไลน์หลายแห่งก็ระบุว่าจะหยุดให้ความร่วมมือกับตำรวจฮ่องกงเมื่อถูกขอข้อมูลผู้ใช้งาน ขณะที่แอปพลิเคชั่น ‘TikTok’ ระบุว่ากำลังจะยุติการดำเนินกิจการในฮ่องกง 

อ้างอิง BBC / SCMP