ไม่พบผลการค้นหา
ประธาน นปช. ติง 'ประยุทธ์' เมินปลด 'ดอน' พ้นรัฐมนตรีหลังปูดสหรัฐฯ โจมตีอิหร่าน ชี้กิจกรรมวิ่งไล่ลุงเป็นกิจกรรมน่ารักเป็นเวลาโชว์ผู้นำนอกสภาของ 'ธนาธร' แนะฝ่ายค้านให้ ปชป. รับบทนำแก้ไข รธน. ปลดล็อก ม.256 ย้ำฝ่ายค้านเปิดแผลทุจริตซักฟอกรัฐบาล

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวผ่านรายการลมหายใจ พีซทีวี เวทีทัศน์ว่า เรื่องสงครามอิหร่านกับสหรัฐอเมริกา ที่สหรัฐอเมริกาใช้โดรนสังหารผู้นำทางการทหารของอิหร่าน และทางการอิหร่านก็ไปทำปืนลั่นใส่เครื่องบินของยูเครนตายยกลำ ขณะเดียวกันนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศของไทย ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรก็ทำ ประทัดลั่นใส่มือตัวเอง สร้างความเดือดร้อนกันทั่วหน้า พูดในลักษณะชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน แต่สุดท้ายก็บอกว่าข้อมูลดังกล่าวข้างคลาดเคลื่อนแต่กลับไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ทำให้หามาตรฐานทางจริยธรรมในทางการเมืองได้ยาก แต่กรณีนี้หากเกิดในต่างประเทศรัฐมนตรีก็จะต้องลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ดังนั้นหากรัฐมนตรีไม่แสดงความรับผิดชอบ นายกรัฐมนตรีก็ต้องปลดรัฐมนตรีคนนั้น แต่กลับเงียบ 

นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีไม่ว่าจะเป็นการวิ่งไล่ลุงที่สวนรถไฟที่มีประชาชนไปร่วมจำนวนมากโดยเฉพาะคนที่ไม่พอใจรัฐบาลและคนที่ได้รับความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ รวมถึงผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลาย ส่วนฝ่ายเดินเชียร์ลุง ก็ไปรวมตัวกันที่สวนลุมพินี แต่ที่ต้องคิดมากคือในสถานการณ์ความเป็นจริงนั้นเรารู้ว่าอยู่ตรงไหนในสถานการณ์นี้อย่างไรตนเข้าใจสถานการณ์ และพร้อมเป็นผู้ตาม เพราะตนผ่านสัจธรรมทางการเมืองมามากและมองว่าตนไม่จำเป็นต้องเป็นผู้นำทุกเวลา เหมือนยุคที่เราเป็นผู้นำ คนในวันนี้ก็เป็นผู้ตาม ซึ่งตนก็บอกอยู่เสมอว่าวันนี้เป็นเวลาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจเป็นผู้นำ ดังนั้นต้องให้โอกาสเดินกันอย่างเต็มที่  

อย่างไรก็ตามกิจกรรมเหล่านี้ไม่ได้จบลง เพระทางผู้จัดได้ประกาศจัดกิจกรรมวิางไล่ลุงอีกครั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ดังนั้นถือเป็นการเริ่มต้นซึ่งส่วนตัวเคยวิเคราะห์ไว้ว่าการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงนี้เป็นกิจกรรมที่น่ารัก เพียงแต่วันนี้ ต้องการให้เห็นทั้งกระดาน ซึ่งถือว่าเป็นยกแรกที่ผ่านพ้นไปด้วยดี และถือว่าเป็นการจุดประกายกันทั้ง 2 ฝ่าย 

นายจตุพร กล่าวถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นส่วนตัวเชื่อว่าไม่มีความหวังใดๆทั้งสิ้น เพราะการไปตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อซื้อเวลานั้นส่วนตัวมองว่า ฝ่ายค้าน 7 พรรคการเมืองไม่ควรไปเล่นการเมืองใดๆ ทั้งสิ้นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงแค่มอบให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ดำเนินการเนื่องจากเป็นเงื่อนไขของพรรคประชาธิปัตย์ที่เข้าไปร่วมรัฐบาล หากเดินแนวทางนี้ก็จะไม่เสียเวลาโดยมุ่งไปที่มาตรา 256 ดังนั้นการที่ตนบอกให้เริ่มต้นที่มาตรา 256 ซึ่งทุกฝ่ายก็เห็นด้วย ส่วนที่เหลือให้เป็นเรื่องของประชาชนทั้งหมด 

"การเลือกตั้งภายใต้กติกาอย่างเดิมไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาประเทศได้ บวกกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นและปัญหาเศรษฐกิจ ที่มาพร้อมกับภัยแล้ง หากรัฐบาลแก้ไขสถานการณ์ไม่ได้ อย่างไรเสียรัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นตนติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอย่างใกล้ชิดและรู้ว่าเวลาไหนควรทำอะไร เพียงแต่ไม่สะใจก็เท่านั้น ดังนั้นอย่าร้อนเกินสถานการณ์"

นายจตุพรยังกล่าวถึงกรณีของฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้นส่วนตัวมองว่า หากสมาชิกพรรคฝ่ายค้านเอาเรื่องที่ใช่ ใช้คนพูดไม่มาก หากพูดกันคนละเล็กน้อยก็ไม่ได้ใจความก็จัดการรัฐบาลไม่ได้ แต่หากนำเรื่องที่ใช่เช่นเรื่องทุจริตฉ้อฉล หากเป็นพฤติกรรมที่คนไทยฟังแล้วรับไม่ได้เพียงไม่กี่เรื่อง โดยไม่จำเป็นต้องอภิปรายข้ามวันข้ามคืน ดังนั้นเพียงแต่เอาเรื่องที่ใช่รวมถึงคนที่มีความสามารถในการอภิปราย

ข่าวที่เกีี่ยวข้อง