ไม่พบผลการค้นหา
Wake Up News - สสส.ส่งเสริมเยาวชน จัดโครงการปิดเทอมสร้างสรรค์ - Short Clip
Mar 7, 2019 03:58

ตัวแทน NEW GEN จาก 5 พรรคการเมืองหนุน สสส.จัดกิจกรรมและเปิดพื้นที่ให้เยาวชน ในโครงการปิดเทอมสร้างสรรค์ ผู้จัดการ สสส.เชื่้อ New Voter 7 ล้านคนจะได้รับข้อมูลนำไปสู่การตัดสินใจเลือกตั้งครั้งนี้ 

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดเวทีแสดงนโยบายด้านเด็ก และเยาวชน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ “มุมมอง NEW GEN พรรคการเมือง กับเรื่องปิดเทอมสร้างสรรค์” 

โดยมีตัวแทนคนรุ่นใหม่จาก 5 พรรคการเมืองร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ประกอบด้วย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ จากพรรคประชาธิปัตย์ นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส จากพรรคเพื่อไทย นายไกรเสริม โตทับเที่ยง จากพรรคพลังประชารัฐ น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ จากพรรคอนาคตใหม่ น.ส.เยาวภา บุรพลชัย จากพรรคชาติพัฒนา

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. ระบุว่า โครงการปิดเทอมสร้างสรรค์เกิดขึ้นเพราะเชื่อในศักยภาพของเด็กและเยาวชน ที่เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ จึงร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม จัดกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ให้เด็กเยาวชนเข้าถึง รวมถึงตำแหน่งงานตามความสนใจ 

ผ่าน www.ปิดเทอมสร้างสรรค์.Com หรือ Happyschoolbreak.com เพื่อให้เด็กเยาวชนใช้เวลาว่างช่วงปิดภาคเรียนเปิดโลกการเรียนรู้ ค้นหาตัวตน สร้างเสริมศักยภาพ เตรียมความพร้อม และพัฒนาทักษะในทุกด้าน

ซึ่งผลสำรวจของยูรีพอร์ต ที่สำรวจเด็กและเยาวชน 1,882 คน พบเกือบครึ่งรู้สึกว่าชุมชนที่อาศัยอยู่ไม่ปลอดภัย และ 35% เห็นว่าชุมชนที่ตนอาศัยอยู่มีพื้นที่สร้างสรรค์น้อย โดยเยาวชน 12% ไม่มีโอกาสมีส่วนร่วมในพื้นที่และสื่อสร้างสรรค์ เนื่องจากไม่ทราบช่องทางการเข้าถึง 

ขณะที่ข้อเสนอของเยาวชน 42% อยากให้รัฐบาลเร่งสร้างพื้นที่ปลอดภัยแก่เด็ก และเยาวชนมากที่สุด จึงเป็นที่มาของการจัดเวทีครั้งนี้ เพื่อส่งต่อข้อมูลและสะท้อนความคิดเห็น ขณะเดียวกันได้รับฟังแนวคิดจากตัวแทน 5 พรรคการเมือง ที่จะนำแปรเปลี่ยนเป็นนโยบาย ทำให้คำว่า “นโยบาย” เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้จริง

ดร.สุปรีดา กล่าวต่อว่า ในกลุ่มเด็กวัยเรียน 13 ล้านคนที่จะได้รับประโยชน์จากกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ที่ สสส.จัดขึ้นในครั้งนี้แล้ว ยังมีเด็ก 7 ล้านคน ใน 13 ล้านคนนี้ที่อยู่เป็น New Voter ยังไม่เคยใช้สิทธิเลือกตั้ง จะมีโอกาสในการใช้สิทธิ์เลือกครั้งแรกโดยอาศัยข้อมูลจากกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ในการตัดสินใจเลือก ขณะเดียวกันยังมีส่วนทำให้พรรคการเมืองต่างๆกลับมาให้ความสนใจและนำเสนอนโยบายเกี่ยวกับการศึกษาให้มากขึ้นด้วย

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ สนับสนุนการจัดกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ที่ สสส.ดำเนินการ พร้อมเน้นย้ำแนวทาง “แก้จน สร้างคนสร้างชาติ”ที่ใช้เป็นแนวทางในการหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเชื่อว่าการสร้างประเทศชาติและลดความเหลื่อมล้ำได้ คือการปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ และทำให้เด็กไทยทุกคนเข้าถึงการศึกษาได้อย่างเท่าเทียม ขณะเดียวกันต้องการกระจายอํานาจให้แต่ละโรงเรียนมีอำนาจในการตัดสินใจในการใช้งบประมาณในแต่ละพื้นที่ 

นางสาวเยาวภา บุรพลชัย ตัวแทนพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า ปัจจุบันเกิดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา เด็กที่มีฐานะยากจนได้รับโอกาสทางการศึกษาน้อยกว่าเด็กที่มีฐานะร่ำรวย ทำให้เด็กยากจนไม่สามารถนำการศึกษามาพัฒนาและใช้เป็นศักยภาพในการประกอบอาชีพในอนาคตได้ พรรคชาติพัฒนาจึงมีนโยบายด้านการศึกษา ควบคู่กับด้านการกีฬา โดยสนับสนุนการจัดกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์ของ สสส. โดยเฉพาะการขยายค่ายเยาวชนไปสู่เด็กที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ให้มาทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์

เช่นเดียวกับนายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ตัวแทนพรรคเพื่อไทย ที่สนับสนุนแนวคิดของ สสส.ในการจัดกิจกรรมและเปิดพื้นที่ในช่วงปิดเทอมให้กับเด็กและเยาวชน ขณะที่พรรคเพื่อไทยมีนโยบายในการพัฒนาเด็กและเยาวชน ด้วยการคืนครูให้ผู้ปกครองเพื่อเปิดโอกาสครูและผู้ปกครองได้มีโอกาสพูดคุยกัรน นำไปสู่การส่งเสริมศักยภาพของบุตรหลานได้อย่างตรงจุด ขณะเดียวกันยังเห็นว่าควรมีการกระจายอำนาจการศึกษา โดยให้อำนาจแต่ละโรงเรียนในการจัดหลักสูตรให้เหมาะสมกับเด็กในแต่ละท้องถิ่น

นางสาวกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ หรือครูจุ๊ย จากพรรคอนาคตใหม่ เปรียบการศึกษาไทยเหมือน Jenga ที่มีพื้นฐานไม่แข็งแรง การแก้ไขปัญหาจึงต้องสร้างรากฐานและพื้นฐานการศึกษาใหม่ทั้งหมด พรรคอนาคตใหม่จึงมีแนวคิดในการนำงบประมาณ 30,000 ล้านบาท จากงบฯทั้งหมดของกระทรวงศึกษาฯ 5 แสนล้านบาท มาใช้พัฒนา “ยกระดับสิ่งแวดล้อม” ที่เกี่ยวข้องกับการเรียน ในช่วง 3 ปี โดยเฉพาะในโรงเรียนขนาดกลางและขนาดเล็ก

เช่นเดียวกับนายไกรเสริม โตทับเที่ยง พรรคพลังประชารัฐ ที่ระบุว่า ทางพรรคมีนโยบายตั้งธนาคารเพื่อการศึกษา ในลักษณะทุนการศึกษาตามผลสัมฤทธิ์การศึกษาของเด็ก จะเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนที่มีกำไรและมีจิตสาธารณะ ร่วมพัฒนาการศึกษา นอกจากนี้ยังมีนโยบายมารดาประชารัฐ ส่วนปิดเทอมสร้างสรรค์ จะไม่ใช่แค่การปิดเทอม แต่เน้นที่ "เวลาว่างสร้างสรรค์" ที่มีได้ทุกวันและทำได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามภายในงานครั้งนี้ สมาชิกสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย นำโดยน.ส.ศิริโชค เทพมณี พร้อมด้วยเครือข่ายเยาวชน ได้ร่วมประกาศเจตนารมณ์ “แสดงพลังเด็กเยาวชน เพื่อร่วมสร้างสรรค์ประเทศไทย”

โดยขอให้พรรคการเมืองที่เข้ามาบริหารและมีอำนาจกำหนดนโยบายในอนาคต ตระหนักถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชน เปิดรับการแสดงความคิดเห็นและการตัดสินใจ โดยมีผู้ใหญ่เป็นที่ปรึกษา ภายใต้แนวคิด “เด็กคิด เด็กทำ เด็กนำ ผู้ใหญ่หนุน” รวมทั้งทำให้เรื่องของการพัฒนาเด็ก และเยาวชนเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมสนบสนุนให้เกิดกิจกรรมดีๆ ในช่วงปิดภาคเรียน เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตทุกด้าน



Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
181Article
60261Video
0Blog