เผยภาพ Huawei P30 Pro พร้อมกล้อง 4 ตัว

หัวเว่ย พี 30 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นหนึ่งที่มีกำหนดการเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งก็มีข้อมูลออกมาว่าคราวนี้จะมาพร้อมกับกล้องหลังถึง 4 ตัว และมีเทคโนโลยีถ่ายรูปที่ดีกว่าเดิม 

Huawei P Series เป็นสมาร์ตโฟนแฟล็กชิปสำหรับการใช้งานด้านไลฟ์สไตล์ของหัวเว่ยที่จะเปิดตัวในช่วงต้นปีของทุกปี และในปี 2019 หัวเว่ยก็เตรียมที่จะเปิดตัว P Series รุ่นใหม่ล่าสุด นั่นก็คือ Huawei P30 ซึ่งก็เริ่มมีข้อมูลหลุดออกมาเรื่อย ๆ ว่าสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะมีหน้าตาอย่างไร ซึ่งสำนักข่าวไอทีต่างประเทศรายงานว่า Huawei P30 Pro ซึ่งจะเป็นรุ่นที่แพงที่สุด จะมาพร้อมกับกล้องถ่ายรูปด้านหลังถึง 4 ตัว และหน้าจอจะมาพร้อมกับรอยบากทรงหยดน้ำ ซึ่งเบนจามิน เกสกิน ดีไซน์เนอร์ และผู้สื่อข่าวไอที ได้ทำภาพเรนเดอร์ตัวเครื่อง Huawei P30 Pro ตามข้อมูลที่ออกมา จะเห็นได้ว่าลักษณะเครื่องโดยรวมยังคงมีหน้าตาคล้ายกับ Huawei P20 ที่ออกมาในปีนี้ โดยเรียงกล้อง 4 ตัวที่ด้านหลัง มุมซ้ายด้านบนของตัวเครื่อง พร้อมตัวอักษรไลก้า และมีขอบตัวเครื่องที่โค้งมนเพื่อความสบายในการถือ

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่า Huawei P30 Pro จะใช้เซนเซอร์กล้องรุ่นใหม่ล่าสุดของโซนี IMX607 ที่มีความละเอียด 38 ล้านพิกเซล และมีคุณสมบัติใหม่ ๆ เช่น การแทรกเม็ดพิกเซลสีขาวเข้าไประหว่างเม็ดพิกเซลสีเพื่อให้รับแสงได้มากขึ้น พร้อมเซนเซอร์วัดอุณหภูมิและวัดแสงสว่างติดตั้งมาให้ จะทำให้กล้องของ Huawei P30 Pro ถ่ายภาพในที่มืดได้ดีขึ้น เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น และให้ภาพที่คมชัดกว่าเดิม ซึ่งคาดว่า Huawei P30 Series จะเปิดตัวในช่วงไตรมาสแรกของปี 2019 

IMAX VR ปิดตัวทั้งหมดในปีหน้า รวมทั้งในกรุงเทพฯ

โรงภาพยนตร์จอยักษ์ IMAX ได้ระดมทุนกว่า 50 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,600 ล้านบาท เพื่อไปสร้างคอนเทนต์พร้อมสนับสนุนการใช้เทคโนโลยี Virtual Reality หรือ VR ในโรงภาพยนตร์อย่างเต็มรูปแบบ ในชื่อ IMAX VR ซึ่ง IMAX คาดว่า VR จะเป็นเทคโนโลยีสำคัญของบริษัทในอนาคต แต่ดูเหมือนว่าการลงทุนครั้งนี้อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีนัก เพราะมีรายงานว่า IMAX กำลังจะปิดทำการ IMAX VR ทั้งหมดทั่วโลกที่กำลังดำเนินกิจการอยู่ หลังจากที่เริ่มเปิดให้บริการได้ไม่ถึงสองปี ซึ่งรวมถึง IMAX VR ในกรุงเทพฯ

IMAX VR เคยเปิดให้บริการรวมทั้งหมด 7 แห่งทั่วโลก แต่ได้ทยอยปิดให้บริการไปแล้ว 4 แห่ง ซึ่ง IMAX ระบุว่า ทางบริษัทกำลังจะปิด IMAX VR ที่เหลืออยู่ 3 แห่ง คือที่ลอสแองเจลิส, โตรอนโต และกรุงเทพฯ ภายในไตรมาสแรกของปีหน้า แต่ยังไม่ได้ระบุวันที่ชัดเจนในการปิดให้บริการ