ไม่พบผลการค้นหา
Talking Thailand - ชง 'ประยุทธ์' เด้ง 'วิระชัย' เข้ากรุเหตุปูดคลิปห้ามยุ่งคดียิงรถ 'บิ๊กโจ๊ก' - Short Clip
Jan 24, 2020 14:19

รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 24 มกราคม 2563

สะเทือนวงการสีกากี หลัง “บิ๊กแป๊ะ” รับชงประยุทธ์ สั่งย้าย รอง ผบ.ตร. “วิระชัย” เข้ากรุ เหตุปูดคลิปเสียง ผบ.ตร. สั่งห้ามยุ่งคดียิงรถ “บิ๊กโจ๊ก” จนมีวิวาทะต่อเนื่อง แถมงานนี้ “พล.อ.ประยุทธ์” ยังเซ็นหนังสือให้ “บิ๊กโจ๊ก” รักษาวินัย จรรยา จน “อ.วิโรจน์ – อ.พิชญ์” ตั้งคำถาม “ถ้ากล่าวหาว่าผิด ทำไมยังไม่ลงโทษสักที” หรือมีแบ็คดี

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาปฎิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (4) แห่ง พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิม และให้ได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง เงินเพิ่มพิเศษและสิทธิประโยชน์อื่นใดไม่ต่ำกว่าที่ได้รับอยู่เดิม โดยเบิกจ่ายจากสังกัดเดิม 

พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง หลังมีพฤติการณ์ส่งผลกระทบความเชื่อมั่นของประชาชน เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในการอำนวยการยุติธรรม กระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่บัดนี้เป็นตันไปจนกว่าจะมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประการอื่น

นอกจากนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 28/2563 ลงวันที่ 23 ม.ค. ใจความโดยให้ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม และให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการ ศูนย์ฯมอบหมาย

ต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยกรณีคำสั่งย้ายกรณี พล.ต.อ.วิระชัย ว่า มาจากเหตุ คลิปเสียงสนทนาระหว่าง 2 นายตำรวจยศ พล.ต.อ. ส่วน พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เป็นไปตามความเหมาะสมในการบริหารราชการ 

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ลงนามออกคำสั่งนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 1/2563 โดยอ้างถึงคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 2/2562 เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 62 ให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ขาดจากการเป็นข้าราชการตำรวจ และให้โอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายก รัฐมนตรี ในกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ ในสำนักนายกรัฐมนตรี ตามมาตรการแก้ไขปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ

โดยในคำสั่ง ระบุว่า ให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ รักษาจรรยาและวินัยข้าราชการ และเพื่อให้การปฏิบัติงานของข้าราชการเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุดังต่อไปนี้ 

1. ไม่กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ไม่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต ไม่รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ไม่ปฏิบัติราชการอันเป็นการกระทำการข้ามผู้บังคับบัญชาเหนือตน ไม่อาศัยตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนหาประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น ไม่ประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ ไม่ละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการ ไม่กระทำการอันเป็นการกลั่นแกล้ง กดขี่ ข่มเหงกันในการปฏิบัติราชการ ไม่ดูหมิ่น เหยียดหยามประชาชน

2. ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบ ของทางราชการ ด้วยความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ อุทิศเวลาของตนให้แก่ราชการ รักษาความ ลับของทางราชการ มีความสุภาพ เรียบร้อย รักษาความสามัคคี ช่วยเหลือการปฏิบัติราชการระหว่างข้าราชการด้วยกันและผู้ร่วมปฏิบัติราชการ และให้งดการมอบหมาย งานพิเศษและสำคัญ และหากมีกรณีไม่รักษาจรรยาและวินัยข้าราชการให้ผู้บังคับ-บัญชาดำเนินการทางวินัยต่อไป ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
181Article
60261Video
0Blog