ไม่พบผลการค้นหา
พรรคกล้าขอของขวัญวันเด็ก อุดหนุนค่าเล่าเรียน- ปล่อยซอฟต์โลน – ทบทวนปิดเนอสเซอรี่ ด้านภาคประชาสังคม ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ขอให้อุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า

พรรคกล้า ออกแถลงการณ์เนื่องในวันเด็กแห่งชาติปี 2564 โดยกล่าวถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 กลับมาระบาดรอบใหม่ แม้ขณะนี้รัฐบาลยังไม่สั่งล็อกดาวน์ทั้งหมด แต่หลายภาคส่วนเริ่มได้รับผลกระทบ รวมถึงกลุ่มเด็กและเยาวชนด้วย เนื่องในวันเด็กแห่งชาติปีนี้ พรรคกล้าจึงอยากขอของขวัญ 3 ข้อจากรัฐบาล 

1) ขอให้รัฐจัดสรรเงินอุดหนุนแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ให้กับเด็กหัวละ 3,000 บาท ในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวะ 10 ล้านคน ใช้งบประมาณรวม 30,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถโยกเงินกู้ในส่วนงบเยียวยาที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายเกือบ 200,000 ล้านบาท มาใช้ได้ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครองที่ประสบภาวะฝืดเคืองในสถานการณ์กึ่งล็อกดาวน์ตอนนี้ 

2) ปล่อยเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงเรียนเอกชน เนอสเซอรี่ต่างๆ ที่ถูกปิด เพื่อต่อชีวิตผู้ประกอบการ ในภาวะฝืดเคืองจากการระบาดโควิด-19 รอบสอง 

3) ขอให้เปิดเนอสเซอรี่ที่ถูกสั่งปิด เพราะเสี่ยงทำให้การระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้นไปอีก เนื่องจากไม่ได้มีการล็อกดาวน์ทั้งหมด 

 
ปล่อยเด็กไปทำงานกับพ่อแม่ เสี่ยงติดเชื้อเพิ่ม

ด้าน มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร กรรมการบริหารพรรคกล้า กลุ่มการศึกษา กล่าวว่า เมื่อเด็กไม่ได้ไปเนอสเซอรี่ แต่พ่อแม่ยังต้องทำงาน ไม่ได้ถูกล็อกดาวน์ทั้งหมดเหมือนคราวที่แล้ว ทำให้พ่อแม่บางบ้านต้องพาลูกไปที่ทำงานด้วย หรือบางคนก็ต้องไปฝากไว้ตามสถานรับเลี้ยงเด็กนอกระบบที่ไม่ได้มีมาตรฐานอะไรเลย ซึ่งก็ล้วนแต่เสี่ยงต่อการติดโรคได้ทั้งนั้น แต่การให้เนอสเซอรี่ที่ขึ้นทะเบียนเปิดดำเนินการต่อได้นั้น จะทำให้เด็กได้อยู่ในสถานที่ที่มีมาตรฐาน มีการดูแลและติดตามได้ จะลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิดได้มากกว่า แต่หากเนอสเซอรี่ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน ก็สามารถใช้อำนาจสั่งปิดเป็นแห่งๆ ไปได้ 

มนต์ชีพ กล่าวด้วยว่า แม้การจัดสรรเงินให้กับประเทศจะยากลำบาก แต่ไม่สามารถโทษใครได้ เพราะโควิด-19 มาจากไหนก็ไม่รู้ จึงขอให้นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และ ศบค. เร่งพิจารณาทั้งเงินอุดหนุนภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครอง และการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำช่วยผู้ประกอบการโรงเรียนเอกชน เนอสเซอรี่ ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นในภาวะยากลำบากขณะนี้ 


อุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า 

สุนี ไชยรส วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบยสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า อ่านแถลงการข้อเรียกร้องจาก 301 องค์กรภาคประชาสังคมและภาค วิชาการ ถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้มอบของวัญวันเด็กปี 2564 ด้วยเงินอุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า ว่าในสถานการณ์ที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงในปัจจุบันขอให้พิจารณาเป็นวาระเร่งด่วน

โดยให้จัดสวัสติการงินอุดหนุนเด็กเล็กอายุ 0-6 ปีจำนวน 600 บาทต่อคน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยากับเด็กเล็กทุกคนแบบถ้วนหน้าโดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ มกราคม 2564 ตามมติของคณะกรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (กคยช.)


ทุกคนต้องได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียม

ด้านอภันตรี เจริญศักดิ์ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย กลุ่มเปราะบางได้รับความเดือดร้อนหนักมาก จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 หลายครอบครัวไม่ทราบว่า ยังมีสิทธิเด็กที่ควรจะรู้ ในเงินสงเคราะห์บุตร จึงขอวิงวอนต่อรัฐบาลให้พิจารณาเรื่องดังกล่าว

ขณะที่เสาวลักษณ์ ทองก๊วย กรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการแห่ง กล่าวว่า คนพิการมีก็มีลูกได้ ถึงแม้จะจดทะเบียนคนพิการแล้ว แต่เด็กก็ควรที่จะได้รับเงินอุดหนุนด้วย ไม่ใช่ว่าเป็นคนพิการแล้ว จะไม่ได้รับสิทธิอย่างอื่นให้กับลูกของตนเอง

อ่านเพิ่มเติม