ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี เผยปลดล็อกการเมืองหลัง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้ ลั่นใช้ความดีเข้าสู่สนามการเมือง แต่ความอดทนมีจำกัด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ความคืบหน้ากำหนดหารือพรรคการเมืองเพื่อปลดล็อกและสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น ว่า จะนัดหารือเมื่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีผลบังคับใช้ ดังนั้นกฎหมายมีผลเมื่อใด ก็นัดหารือเมื่อนั้น 

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเรื่องพรรคการเมืองลงพื้นที่หาสมาชิก แล้วมีกลุ่มคนขัดขวางและด่าทอ ว่าเรื่องนี้จะนำไปสู่การเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่าจะให้ทำอย่างไร ตนไม่ได้ทำอะไรและไม่ได้ด่าด้วย ดังนั้นใครจะด่าใครก็ด่ากันไป ถ้าไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง ประชาชนก็จะเลือกเอง

ส่วนเมื่อพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ คสช.จะต้องเข้มงวดเรื่องการหาเสียงและดูนโยบายของพรรคการเมืองหรือไม่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าแต่ละพรรคการเมืองควรพูดในนโยบายหรือควรพูดวิธีการปฏิบัติ เมื่อเป็นรัฐบาลจะทำอย่างไร ต้องพูดแบบที่รัฐบาลชุดนี้ทำหรือไม่ เพราะวันนี้นักการเมืองก็จับจ้องว่ารัฐบาลนี้ ทำผิดบ้างถูกบ้างพูดไปเรื่อย แต่ส่วนใหญ่บอกผิดหมด แล้วจะแก้อย่างไรให้ถูกให้บอกมา

พลเอกประยุทธ์ ยังชี้แจงกรณีที่กล่าวว่า เป็นนักการเมืองต้องหน้าด้านแต่ตัวเองจะเอาความดีเข้าสู้ ว่า ก็ต้องใช้ความดีเข้าสู้ ไม่รู้จักความดีหรือ หากรู้จักก็ไม่ต้องถามว่า ความดีคืออะไร แต่ความอดทนก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน

นายกฯ บอกเป็นนักการเมืองต้องปรับตัว ขอเอาความดีเข้าสู้

หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เปิดโอกาสให้ผู้แทนประชาคมวิจัย เข้าพบ พร้อมยื่นข้อเสนอโมเดลเศรษฐกิจ 3 ฐานหลัก ชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว และ มอบสมุดปกขาว BCG in action : การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเศรษฐกิจชีวภาพเศรษฐกิจหมุนเวียน และ เศรษฐกิจสีเขียว โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่จะครอบคลุม 4 เป้าหมาย ได้แก่ เกษตรและอาหาร พลังงานและเคมีชีวภาพ การแพทย์และสุขภาพ รวมไปถึงการท่องเที่ยว

โดยนายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้ผู้แทนประชาคมวิจัยเข้าพบ หลังพูดไปกับกลุ่มนักวิจัยไปเกือบ 40 นาที นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้นำน้ำดื่มขึ้นไปให้ บนเวที ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีคนกล่าวหา 4 รัฐมนตรีพยายามเอาใจตนเองตลอด แต่ไม่ต้องห่วงตนเองเป็นคนเอาใจยาก บางอย่างแม้แต่ภรรยาก็ยังไม่ทราบ และอาจเผลอพูดคำไม่สุภาพก็กล่าวขอโทษที่เป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้ดั่งใจ แต่ตนก็เป็นคนทำงาน อาจมีคนไม่พอใจและเกลียดตนเองมาก ก็หมดแรงได้เช่นกัน พร้อมเปรียบตนเองเป็นโคนันทวิสาร ถ้าพูดจาดี ก็ไถนาเพลิน ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องทำให้สำเร็จ 

พร้อมขอทุกคนอย่าเครียด พร้อมยกตัวอย่าง ที่ผ่านมาหงุดหงิดหลายเรื่อง เพราะเป็นทหารมานาน แต่ทหารด่ากันไม่ได้ แต่เมื่อมาเป็นนักการเมืองก็พยายามปรับตัว เพราะการจะเป็นนักการเมืองจะต้องหน้าด้านกว่าเดิม ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ แต่ไม่จำเป็นต้องหน้าด้านหน้าทน ขอเพียงแต่นำความดีเข้าสู้ พร้อมขอให้ทุกคนช่วยกันทำให้บ้านเมืองปลอดภัย ทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง เพราะประเทศต้องเดินต่อไป อย่าให้ประเทศถอยหลังไปติดกับดักแบบเดิม

ขณะเดียวกัน ยังกล่าวถึงข่าวประจำวันโดยเฉพาะทนายความที่เป็นข่าว (ทนายอามชุติมา และค่ายไหทองคำ ) พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าได้ทำงานในศาลหรือไม่ หรือเป็นแต่ทนายเฉพาะในสื่อมวลชน ซึ่งส่วนตัวห้ามอะไรได้ แต่อยากให้มีจิตสำนึกและตระหนัก ว่าสิ่งที่ทำอยู่ทำให้สังคมเกิดความวุ่นวายหรือไม่ บางเรื่องส่วนตัว ก็ควรปล่อยให้มีการพิจารณาตามขั้นตอนของศาล และ ทนายควรไปทำหน้าที่ในศาล