ไม่พบผลการค้นหา
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยันไร้รอยร้าว ปมส่งชิง ส.ส. ปลื้มคนให้ความสนใจเยอะ สะท้อนความนิยมไต่ระดับ

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาการจัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ ว่าไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นปัญหา ตนมองในเชิงบวกเพราะหากย้อนไปดูในปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าการหาตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคยังมีคนปฏิเสธเยอะ และมีหลายคนแจ้งว่าจะไม่ลงสมัคร 

แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปมีคนสนใจ “เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ” โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ดังนั้นเมื่อเขตไหนมีผู้สนใจลงสมัครมากกว่า 1 คนก็ไม่ได้เป็นปัญหา ซึ่งพรรคต้องขอบคุณผู้ที่สนใจ แต่พรรคมีกระบวนการในการพิจารณาตามบทบาทและข้อบังคับของพรรค ซึ่งเป็นสิ่งที่ปฏิบัติมาช้านาน พร้อมยืนยันไม่ได้เป็นปัญหา เป็นเรื่องที่พรรคต้องตัดสินใจเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

ส่วนกรณี นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง โพสต์สะท้อนถึงปัญหาการจัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในเขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดพัทลุง จุรินทร์กล่าวว่าตนไม่ขอพูดรายบุคคลแต่ย้ำพรรคมีกระบวนการอยู่ กรณีถูกมองว่าใช้คนตระกูลเดียวกันในบางเขต จุรินทร์ยืนยันว่าพรรคดูตามความเหมาะสม ซึ่งกรรมการบริหารของพรรคมีดุลพินิจอยู่แล้ว พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เลือกคนสนิท แต่ใช้หลักเกณเดียวกันทุกกรณี

สำหรับหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้สมัครนั้น จุรินทร์ ย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์มีข้อบังคับอยู่แล้วผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติตามกฎหมายก่อน แล้วพรรคจะดูว่าใครเหมาะสมที่สุด ซึ่งกระบวนการนี้พรรคใช้ต่อเนื่องมากว่า 70 ปี มั่นใจว่าหาข้อยุติได้


ไม่เป็นรอยร้าวภายในพรรค 

ส่วนจะต้องมีการเคลียร์ใจกันภายในพรรคหรือไม่ จุรินทร์เชื่อว่าทุกคนเข้าใจกระบวนการของพรรค ส่วนกรณีต้องการให้ได้รับเลือกเป็นผู้ลงสมัครนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละคน พรรคไม่กะเกณฑ์ว่าต้องทำอย่างไร ทั้งนี้เหตุการณ์นี้สะท้อนว่ามีความขัดแย้งในพรรคได้กรือไม่ จุรินทร์ชี้แจงว่าเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมีคนต้องการลงสมัครมากกว่า 1 คนก็ต้องแย่งกันลง ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับทุกพรรค มั่นใจเรื่องนี้จะไม่เป็นรอยร้าวภายในพรรค 

ส่วนจะชนะในศึกเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ จุรินทร์เชื่อว่าตอนนี้พรรคกำลังเดินขึ้น และการที่มีคนสนใจสมัครหลายคนก็เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดว่าความนิยมของพรรคต่างจากปีก่อนๆที่ผ่านมา ส่วนการประชุมใหญ่ของพรรคได้แจ้งความจำนงต่อ กกต.ไปแล้ว ขึ้นอยู่กับกกต.อนุญาตว่าจะอนุญาตให้ประชุมได้เมื่อไหร่