ไม่พบผลการค้นหา
“หมอวรงค์” ชวนปชช.รวมตัวยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญ 28 ก.ย. นี้ ลั่นใช้สิทธิขวางกระบวนการลักไก่ในรัฐสภา เปรียบเป็นเผด็จการอ่อนๆ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ก.ย. ที่ทำการพรรคไทยภักดี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี แถลงว่า ขณะนี้กำลังมีการลักไก่กันในสภาฯโดยสมาชิกรัฐสภาได้ดำเนินการแก้ไขระบบการเลือกตั้งจากบัตรหนึ่งใบไปสู่บัตรสองใบ โดยใช้กระบวนการฉ้อฉล เร่งรีบ ไม่รอบคอบในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งที่หัวใจสำคัญของประชุมใหญ่รัฐสภาอนุมัติให้รับหลักการในวาระแรกเพียงสองมาตรา คือมาตรา 83 และมาตรา 91 แต่ลักไก่เพิ่มมาตรา 86 เข้ามา นอกจากนี้ยังมีการจำกัดสิทธิของประชาชนที่คุ้มครองไว้ในรัฐธรรมนูญ นั่นคือเจตนารมย์ของระบบจัดสรรปันส่วน มุ่งเน้นการพยายามทำให้ทุกคะแนนของประชาชนมีความหมายคะแนนที่ประชาชนเลือกทุกพรรคการเมืองจะต้องถูกนำมาคิดจัดสรรที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรไม่ถูกทิ้งเสียเปล่า

โดยทุกคะแนนที่มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตไม่ว่าจะเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้งหรือไม่ได้รับการเลือกตั้งจะนำไปรวมเป็นคะแนนของพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ การที่รัฐสภาดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปสู่ระบบบัตรเลือกตั้งสองใบ แยกเป็นส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ จึงนำไปสู่ระบบผู้ชนะกินรวบ คะแนนผู้แพ้ถูกทิ้งน้ำ เป็นการทำลายสิทธิของประชาชน โดยเฉพาะสิทธิในคะแนนของประชาชนที่คุ้มครองไว้ในรัฐธรรมนูญผ่านระบบจัดสรรปันส่วน เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 50 (1) กำหนดว่า บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข


ใช้สิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญคุ้มครอง

ดังนั้นเราจะใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ที่กำหนดไว้ว่าบุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้มีสิทธิ์ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อมีคำวินิจฉัยว่าการกระทำนั้นขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกคนมาร่วมกันยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อปกป้องสิทธิของประชาชนที่จะถูกนักการเมืองทำลายทิ้งผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 28 ก.ย. เวลา 09.30 น. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ และยืนยันว่าเราไม่ได้จัดม็อบ แต่เป็นการไปยื่นศาลเพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชน

เมื่อถามว่า เหตุใดทำไมจึงเพิ่งยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะอีกไม่กี่วันก็จะครบกำหนดที่นายกฯจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ นพ.วรงค์ กล่าวว่า สิทธิประชาชนไม่จำกัดเวลา เหตุที่ตนเพิ่งยื่น เพราะเพิ่งทราบ เนื่องจากมีนักกฎหมายห่วงบ้านเมืองและแจ้งช่องทางให้ประชาชนสามารถยื่นเรื่องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จำกัดสิทธิของประชาชน

เมื่อถามว่า หากนายกนำขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว จะดำเนินการอย่างไรต่อไป นพ.วรงค์ กล่าวว่า กฎหมายที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ประชาชนสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้ตลอด แม้ว่าจะมีการโปรดเกล้าฯไปแล้วก็สามารถร้องได้ เพราะรัฐธรรมนูญให้สิทธิ์กับประชาชน ซึ่งนักการเมืองคงคิดไม่ถึงที่กล้าตัดสิทธิ์ของประชาชน

เมื่อถามว่าจะมีการยื่นกับผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญใหญ่สุดและสูงสุด โดยกำหนดให้โดยกำหนดให้ประชาชนสามารถยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ไม่มีปัญหา โดยมาตรา 213 เป็นหัวใจสำคัญที่ประชาชนจะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้

เมื่อถามต่อว่าการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ มองพรรคก้าวไกลจะได้ประโยชน์หรือไม่ จากระบบการเลือกตั้งเดิม นพ.วรงค์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเป็นคนไทยหรือไม่ ถ้าเป็นคนไทยก็ได้รับสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญเมื่อถามว่าการยื่นครั้งนี้จะถูกมองว่าเป็นเพราะพรรคเล็กเสียบเปรียบกับบัตรเลือกตั้งสองใบ นพ.วรวงค์ กล่าวว่า เราไม่สนใจ แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นการจำกัดสิทธิของประชาชน สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือเมื่อจังหวัดไหนไม่เลือกก็จะไม่ได้รับการดูแล

ดังนั้นประชาชนมีสิทธิ์ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญและการแก้ไขบัตรเลือกตั้ง ตนก็ไม่เคยกลัวและเป็นแชมป์ผูกขาดบัตรเลือกตั้งสองใบมาตลอด แต่ตนมองว่าบัตรเลือกตั้งสองใบนำไปสู่เผด็จการรัฐสภา เพื่อให้นายทุนสามานย์ครอบงำรัฐสภา ทำให้ประเทศกลับสู่วงจรเดิมประวัติศาสตร์มีไว้ให้ศึกษาเราจึงไม่ควรนำกลับไปสู่วงจรเดิม การแก้ไขและการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ผิดพลาดมาตั้งแต่ต้นเป็นการสุกเอาเผากินรักไก่

เพราะมีมาตราเชื่อมโยงหลายมาตรา แต่กลับเสนอแก้ไขสองมาตราตั้งแต่ต้น ถ้าเราแฟร์ๆควรยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ตอนนี้สมาชิกรัฐสภายังมีเวลา เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดราชการ ซึ่งกำหนดระยะเวลาจึงให้นับวันราชการถัดไป โดยจะครบกำหนดในวันที่ 28 ก.ย. และขอให้นายกฯเป็นวีรบุรุษของประเทศพิทักษ์ความถูกต้อง ถ้านายกฯไม่ร้องศาลก็ไม่เป็นอะไร แต่วันนี้ประชาชนเตรียมร้องเพื่อสิทธิเสรีภาพ


เชื่อไม่นำพาไปสู่รัฐประหาร

เมื่อถามว่าเงื่อนไขนี้จะนำไปสู่การทำรัฐประหารหรือการฉีกแล้วธรรมนูญอีกหรือไม่ นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตอนยังมองไม่เห็นในการทำรัฐประหาร เพราะเราไม่ได้สร้างเงื่อนไข แต่นักการเมืองแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ครั้งนี้ประชาชนยังไม่ถึงกับเดือด แต่ก็ไม่แฮปปี้จึงใช้กระบวนการกฎหมายในการแก้ไขปัญหาอย่างไรก็ตามอยากให้นายกฯชะลอการนำขึ้นทูลเกล้าฯเอาไว้ก่อน เพื่อให้ประเทศไปได้ดีอย่านำเสียงข้างมากลากไปของรัฐสภา เพราะตอนนี้เป็นเผด็จการรัฐสภาอ่อนๆ รวมถึงส.ส.อย่าดื้อ ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง

เมื่อถามว่ากังวลเสียงสะท้อนจากรัฐบาลไม่รับฟังหรือไม่นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตอนนี้ตนไม่กังวลหลังจากที่เห็นมาตรา 213 ประกอบกับมาตราอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน ที่ผ่านมาตนจึงชงให้นายกฯเตะเข้าโกลล์ทุกลูก ถ้าครั้งนี้ท่านเตะจะสง่างามมาก รวมถึงส.ส.และส.ว.ยังมีเวลา