นายภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ หรือ รองเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ตามที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ FIFA ได้มีหนังสือถึงสำนักงาน กสทช. แจ้งว่า FIFA ตรวจพบว่ากล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมของไทยสามารถรับชมรายการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ได้ที่ประเทศเมียนมาร์

ดังนั้น จึงขอให้สำนักงาน กสทช. มีมาตรการควบคุมไม่ให้การถ่ายทอดสดรายการดังกล่าว สามารถรับชมได้ในต่างประเทศ วันนี้ (4 ก.ค. 2561) สำนักงาน กสทช. จึงได้เชิญบริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด, บริษัท ทีซี บรอดคาสติ้ง จำกัด รวมถึง บริษัท พีเอสไอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (PSI) และ บริษัท ไอพีเอ็ม เซลล์แอนด์เซอร์วิส จำกัด (IPM) ผู้ให้บริการโครงข่ายฯ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือแนวทางแก้ไขป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล 2018 รอบสุดท้าย

โดยสรุปเป็นแนวทางดำเนินการ จะมีการเปลี่ยนแปลงรหัส (BISS KEY) ประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกในทุกวันที่มีการแข่งขัน

สำนักงาน กสทช. จึงขอแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบว่า หลังจากวันนี้ (4 ก.ค.) ก่อนจะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล 2018 รอบสุดท้ายทุกวัน จะมีตัววิ่งที่หน้าจอโทรทัศน์บอกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรหัส (BISS KEY) หลังจากนั้นขอให้ประชาชนถอดปลั๊กกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ และเสียบปลั๊กใหม่ หรือ กรณีที่ประชาชนไม่สามารถรับชมได้ก็ขอให้ประชาชนถอดปลั๊กกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ และเสียบปลั๊กใหม่ เพื่อให้กล่องดำเนินการปรับปรุงรหัสอัตโนมัติ (OTA)

เมื่อถึงเวลาถ่ายทอดสดประชาชนก็จะสามารถรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ตามตารางได้ตามปกติ แต่หากประชาชนพบปัญหาไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกได้ ขอให้ประชาชนโทรแจ้งปัญหาที่ Call Center ของผู้ให้บริการกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ที่ประชาชนใช้บริการอยู่เพื่อขอรับคำแนะนำการแก้ไขทางเทคนิคเพื่อให้สามารถรับชมได้ตามปกติ

"การที่ต้องเข้ารหัสดังกล่าว เพื่อป้องกันกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมของไทยที่อยู่ในต่างประเทศสามารถรับชมรายการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายได้ เพื่อไม่ให้เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของ FIFA ที่ให้ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายได้เฉพาะในประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนคนไทย สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายได้จนจบ" นายภักดี กล่าว

ทรูวิชั่นส์แจงศาลทรัพย์สินทางปัญญาระงับถ่ายทอดบอลโลกผ่าน AIS Play

ส่วนกรณีทรูวิชั่นส์ ยื่นคำร้องต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง กรณีที่บริษัท ซุปเปอร์ บรอดแบนด์ เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ SBN ธุรกิจในเครือเอไอเอสนำสิทธิการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 เผยแพร่ผ่านแอป AIS Play บนมือถือ โดยไม่เคยได้รับอนุญาตจากทางทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป และฟีฟ่าล่วงหน้า โดยศาลได้มีคำสั่งให้ AIS Play ยุติการเผยแพร่การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. 2561 เวลา 17.00 น.

ล่าสุดวันนี้ (4 ก.ค.) ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ได้เข้าชี้แจงกับศาลทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศกลาง เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ที่จะต้องดูแลการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในประเทศไทยไม่ให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์ และต้องเป็นไปตามกติกาข้อกำหนดของฟีฟ่า จึงได้ร้องขอศาลให้พิจารณามีคำสั่งระงับการถ่ายทอดการออกอากาศผ่าน AIS Play บนมือถือ และอุปกรณ์เคลื่อนที่ เนื่องจากไม่เคยได้รับอนุญาตจากทางทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป และฟีฟ่าล่วงหน้า จึงไม่มีสิทธิที่จะเผยแพร่ และอาจเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องทางลิขสิทธิ์ที่จะส่งผลต่อประเทศไทยในเรื่องลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกในครั้งนี้ และในอนาคตต่อไปได้

ขณะที่ SBN ได้รับแจ้งเพิ่มเติมจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ว่าสามารถถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2018 ผ่านทางกล่อง AIS PLAYBOX ได้ ดังนั้นลูกค้าที่รับชมผ่านกล่อง AIS PLAYBOX ซึ่งมีสมาชิกอยู่ประมาณกว่า 4 แสนราย จะสามารถรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ได้ตามปกติตั้งแต่คืนวันที่ 3 ก.ค. 2561

อ่านเพิ่มเติม

ทรู วิชั่นส์

ARTICLE

เศรษฐกิจ

แนะปชช. ถอดปลั๊กกล่องสัญญาณดาวเทียมก่อนชมบอลโลกรอบสุดท้าย