คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ระบุ ในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย ที่มี 

- คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

- นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 

- นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

- ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

- ดร.วิษณุ เครืองาม เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ

ซึ่งในขณะนั้น ไม่ได้มีความขัดแย้งในการทำงาน แต่หลังมีการปฏิวัติรัฐประหาร 2549 มีการกระจัดกระจายครั้งใหญ่ของพรรคไทยรักไทย คนหายไปกว่าครึ่ง คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ ถ้าไม่ถูกกัน ณ ตอนทำงานในขณะนั้น ก็จะต้องแตกกันตั้งแต่ก่อนการปฏิวัติ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ หลังการปฏิวัติ ต่างคนต่างก็เลือกเส้นทางตัวเอง 

สำหรับ 'พลังดูด' ที่มีการแลกเปลี่ยนด้วยผลประโยชน์ คุณหญิงสุดารัตน์ ก็มีอยู่แล้ว ซึ่งตามข่าวลือตัวเลขเยอะ น่าไป 

โดยพลังดูด รอบนี้ที่มี 'สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ' ลงมาเล่นด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ 'สุริยะ - สมศักดิ์' ไม่เคยแยกกัน พลังดูดจึงไม่ใช่ครั้งแรก โดยในเมื่อปี 49 พลังดูดรุนแรง ไทยรักไทยหายไปครึ่งหนึ่ง และก็โดนอีกหลายครั้ง แม้เป็นรัฐบาลอยู่ก็ถูกดูด พลังดูดรอบนี้จึงไม่ได้น่ากลัวกว่าที่ผ่านๆ มา แต่ คุณหญิงสุดารัตน์ กลับมองว่าเป็นสิ่งที่ดี

เพราะนับเป็นการปฏิรูปการเมือง โดยผู้มีอำนาจเคยพูดสวยหรูว่าจะปฏิรูปการเมือง แต่กระทำกลับทำสิ่งที่น่ารังเกียจ โดยสิ่งที่น่ารังเกียจที่เคยกล่าวก็ เช่น นักการเมืองเลว ระบบเลว การซื้อเสียง การใช้เงิน คอรัปชั่น แต่ทุกวันนี้ทั้งหมดที่ไม่ดีไปอยู่ที่ใด ? และอีกเหตุผลหนึ่งคือ ปัจจุบันโลกเปลี่ยน ประชาชนฉลาด ขวนขวาย และรู้ว่าจะออกจากกับดักนี้อย่างไร ? และเป็นโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะได้ปรับภาพลักษณ์