รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 24 มีนาคม 2563
นักวิเคราะห์ Talking Thailand ชี้ เพราะรัฐบาล ทั้ง “พล.อ.ประยุทธ์” และ รมว.พาณิชย์ที่ชื่อ “จุรินทร์” ต่างลอยตัวหนีปัญหาปมคนซื้อหน้ากากอนามัยราคาแพง แถมโรงพยาบาลแทบไม่มีใช้รับมือโควิด แถมไร้ผลงานตามจับ ปล่อยให้ภาคประชาชน ประสานข้าราชการ และตำรวจตามจับกันเอง งานนี้ “อัจฉริยะ” แฉไม่ยั้ง มีทหาร-นักการเมือง มีเอี่ยวอมหน้ากากฯ รังแกประชาชน
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำรายชื่อโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย, บริษัทนำเข้าหน้ากากอนามัยและวัตถุดิบทั่วประเทศ กว่า 1,000 บริษัท เข้ามอบให้กับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. เพื่อสืบสวนติดตามจับกุมบริษัทที่ฝ่าฝืนกฎหมายลักลอบส่งออกหน้ากากอนามัย
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 สนธิกำลังเข้าตรวจค้นโรงงานแห่งหนึ่งที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่ได้อยู่ในรายชื่อ 11 บริษัทที่กรมการค้าภายในควบคุม สามารถตรวจยึดหน้ากากอนามัยได้ 45,000 ชิ้น หลังจากจับผู้ค้าได้และซัดทอดว่าโรงงานดังกล่าวเป็นผู้ผลิตให้ โดยบริษัทเหล่านี้จะผลิตหน้ากากจำหน่ายตลาดมืด จากเดิมขายให้กับธงฟ้าในภาคเหนือแต่กลับพบว่าจำหน่ายทางออนไลน์ กล่องละ 800 บาท
ส่วน 11 บริษัทที่กรมการค้าภายในกำกับอยู่ พบว่ามี 1 บริษัท ลักลอบจำหน่ายให้กับตลาดออนไลน์จำนวนมาก และแจ้งยอดการผลิตไม่ตรงกับความจริง เช่น แจ้งยอดให้กับกรมการค้าภายในผลิตได้ 200,000 ชิ้นต่อวัน แต่ความจริงคือผลิตได้ 500,000 ชิ้นต่อวัน ส่วนต่าง 300,000 ชิ้น ลักลอบนำไปจำหน่ายให้กับแก๊งนายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือเสี่ยบอย, กลุ่มข้าราชการกรมการค้าภายใน 3-4 ราย และกลุ่มการเมือง
นอกจากนี้ ยังมีทหารเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย อย่างเช่นในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ได้รับรายงานว่ามีทหารเข้าไปสั่งโรงงานไม่ให้ผลิตแอลกอฮอล์เพื่อให้ขาดตลาด ส่วนกลุ่มนักการเมืองเป็นกลุ่มที่เคยพูดมาก่อน อยู่ในกระทรวงพาณิชย์ หลักฐานเริ่มปรากฏขึ้นเรื่อยๆ โรงงานที่จับได้ก็เป็นหนึ่งใน 11 บริษัทที่เอามาขายจำนวนมาก โดยเฉพาะวันที่ 29 มกราคม เอามาขายให้กับนายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพ จำนวน 1 ล้านชิ้น โดยนายพันธ์ยศ ได้ส่วนแบ่งไป 4 แสนบาท ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ยังมีการขายอีกหลายล้านชิ้น หนึ่งในบริษัทนี้อยู่ในสังกัดของกรมการค้าภายใน และ 11 บริษัทที่กล่าวอ้างมา ยังไม่รวมอีก 242 บริษัทที่ทำเรื่องขอมายังกรมการค้าภายในเพื่อส่งออก อนุมัติเพียง 7 บริษัท ทำไมอีก 200 กว่าบริษัท ไม่ยอมเปิดเผยให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยงานที่ขอไป
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังไปแจ้งความที่ ปอท. เอาผิด นายศรสุวีร์ พร้อมพวก กรณีกักตุนหน้ากากอนามัย กรณีโพสต์เฟซบุ๊กขายหน้ากากอนามัย ในความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์