ราคาหุ้นของสแนปแชทร่วงหนัก หลังคนดังอย่างไคลี เจนเนอร์ทวีตข้อความว่าเธอเลิกใช้แอปพลิเคชั่นดังกล่าวไปแล้ว แสดงให้เห็นถึงอนาคตที่เปราะบางของสแนปแชท
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นของสแนปแชท แอปพลิเคชั่นแลกเปลี่ยนภาพถ่ายร่วงลงอย่างหนักเกือบร้อยละ 8 มูลค่าบริษัทในตลาดหุ้นหายไปถึง 1,300 ล้านดอลลาร์ โดยราคาของสแนปแชทร่วงลงอย่างหนักทันทีที่ไคลี เจนเนอร์ นักแสดงและนางแบบชื่อดังของสหรัฐฯ ซึ่งมีคนตามในทวิตเตอร์กว่า 24.5 ล้านคน ได้ทวีตข้อความว่า "คนอื่นยังใช้สแนปแชทกันอยู่ไหม หรือมีเพียงเธอคนเดียวที่เลิกใช้งานไปแล้ว นี่เป็นเรื่องน่าเศร้ามาก" และก่อนหน้านี้ เมย์เบลลีน บริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอางก็เพิ่งถามผู้ใช้ว่าเมย์เบลลีนควรปิดแอคเคาท์ใน สแนปแชทหรือไม่
ปัจจุบัน สแนปแชทกำลังแข่งขันกับแอปพลิเคชั่นอินสตาแกรมของเฟซบุ๊กอย่างหนัก และต้องพยายามดึงดูดให้คนดังเข้าไปใช้สแนปแชทกันให้มากขึ้น เพื่อจูงใจให้คนอื่นๆ ตามเข้าไปใช้สแนปแชทด้วย แต่ทวีตของเจนเนอร์ได้ทำให้นักลงทุนยิ่งกังวลเกี่ยวกับอนาคตของสแนปแชทมาก ขึ้น
หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงหน้าตาและฟังก์ชั่นต่างๆ ของแอปฯ มีการแยกเนื้อหาจากเพื่อนออกจากบริษัทผู้ผลิตคอนเทนต์ และปรับ Snapchat Stories จนทำให้มีผู้ใช้มากกว่า 1,200,000 คนร่วมกันลงชื่อเพื่อเรียกร้องให้สแนปแชทเปลี่ยนกลับไปเป็นแบบเดิม เพราะการเปลี่ยนแปลงทำให้แอปฯ ใช้ยากขึ้น แต่นายอีแวน สปีเกิล ซีอีโอของสแนปแชทก็ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลงกลับไปใช้รูปแบบเดิม โดยระบุว่าผู้ใช้เพียงต้องการเวลาเพื่อทำความคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงเท่า นั้น
สำนักข่าวบีบีซีมองว่านักลงทุนคาดการณ์ไม่ออกเลยว่าสแนปแชทจะ เป็นอย่างไรต่อไป หากไม่ใช่อนาคตของการสื่อสารก็จะเป็นเพียงโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยม เพียงไม่นานแล้วก็หายไป เหมือนกับข้อความของสแนปแชทที่เปิดดูเพียงไม่นานแล้วก็หายไป ดังนั้น สแนปแชทจำเป็นต้องสร้างฐานผู้ใช้ที่แข็งแกร่ง และขยายกลุ่มผู้ใช้ให้เติบโตขึ้นอย่างมั่นคง
ในปี 2017 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้สแนปแชททุกวันมากกว่า 187 ล้านคน แต่ก็ยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างอินสตาแกรม ในขณะที่ดาราและเน็ตไอดอลจำนวนมากก็เลิกใช้สแนปแชทกันแล้ว เพราะอินสตาแกรมก็สามารถมี Stories ที่ให้โพสต์ภาพและวิดีโอที่จะหายไปภายใน 24 ชั่วโมงเช่นกัน