มิกซ์ มาร์เชียล อาร์ท เป็นกีฬาต่อสู้ที่มีมนต์เสน่ห์ และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในเอเชีย วอยซ์ทีวีพาไปสิงคโปร์ บุกดินแดนต้นกำเนิดศึก MMA วัน แชมเปี้ยนชิพ
การต่อสู้อย่างเข้มข้นบนเวที ผนวกกับแสงสีเสียง และการกระตุ้นความคึกคักของผู้ชมเป็นระยะ คือ เสน่ห์ของกีฬามวยกรง หรือมิกซ์ มาร์เชียล อาร์ท ซึ่งเป็นสปอร์ต เอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่กำลังมาแรงในยุคนี้ สังเกตได้จากแฟนๆที่ตีตั๋วเข้าไปจนเต็มความจุของสนามสิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดี้ยม เพื่อชมศึก One Championship: Immotal Pursuit เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
วัน แชมเปี้ยนชิพ ถือเป็นน้องใหม่ในวงการ MMA หากเทียบกับอัลติเมต ไฟติ้ง แชมเปี้ยนชิพ หรือยูเอฟซี ที่หลายคนรู้จักกันดี โดยยูเอฟซี ก่อตั้งในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 1993 มีอายุเก่าแก่กว่าเกือบ 20 ปี เมื่อเทียบกับ วัน แชมเปี้ยนชิพ ของสิงคโปร์ ที่ก่อตั้งมาในปี 2011 แถมยังมีมูลค่าการตลาดมากกว่า MMA สายพันธุ์เอเชียหลายเท่า หรือประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์ ต่อ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ชาตรี ตรีศิริพิศาล นักธุรกิจลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ผู้ชื่นชอบมวยไทย และใช้ชื่อในวงการว่า ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้ก่อตั้ง และเป็นประธานศึก วัน แชมเปี้ยนชิพ ตั้งเป้าที่จะทำให้มวยกรงของเขา กลายเป็นสปอร์ต เอ็นเตอร์เทนเมนต์แห่งแรกของเอเชียที่มีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์ภายในปีหน้า ด้วยการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง และชูเอกลักษณ์การต่อสู้แบบเอเชีย
ความแตกต่างระหว่าง วัน แชมเปี้ยนชิพ กับยูเอฟซี ที่เห็นได้ชัด คือศึกวัน แชมเปี้ยนชิพจะเน้นวัฒนธรรมการต่อสู้แบบเอเชีย ที่ยังคงไว้ซึ่งความเคารพ และให้เกียรติคู่แข่ง ไม่สนับสนุนความก้าวร้าว หรือการใช้วาจาดราม่าใส่กันทั้งในและนอกสังเวียน นอกจากนี้ยังเน้นปั้นนักสู้ท้องถิ่นขึ้นมาเป็นแบบอย่าง และแรงบันดาลใจให้กับนักสู้รุ่นต่อไปในอนาคต
