ไม่พูดถึงไม่ได้เลย สำหรับการพูดถึงการเมืองเป็นครั้งแรกของศิลปินสาว 'เทย์เลอร์ สวิฟต์' ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงเจตนารมณ์ของเธอเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะแฟน ๆ ของเธอตัดสินใจลงทะเบียนเลือกตั้งด้วย

หลังจากที่ศิลปินฮอตแห่งยุคอย่าง 'เทย์เลอร์ สวิฟต์' ประกาศสนับสนุนทางการเมืองเป็นครั้งแรก โดยเธอโพสต์สนับสนุน 'จิม คูเปอร์' และ 'ฟิล เบรเดเซน' สองผู้สมัครเดโมแครตในรัฐเทนเนสซี บ้านเกิดของเธอ สำหรับการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมกับการกล่าวตำหนิ 'มาร์ชา แบล็กเบิร์น' จากพรรครีพับลิกัน ที่มีประวัติต่อต้านสิทธิผู้หญิงและผู้มีความหลากหลายทางเพศ นอกจากนี้ สวิฟต์ยังเชิญชวนให้แฟน ๆ ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันให้มาก ก็ทำให้ยอดผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งพุ่งขึ้นทันที โดยส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ อายุต่ำกว่า 25 ปี

ด้านสถิติของ Vote.org ชี้ว่า ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการโพสต์ของสวิฟต์ มีผู้ที่มีอายุระหว่าง 18 - 29 ปี ลงทะเบียนเลือกตั้งเกือบ 65,000 คน และจากนั้นไม่นานก็เพิ่มขึ้นจนทะลุแสนคน ซึ่งแม้คิดเป็นสัดส่วนที่ไม่มากเมื่อเทียบกับฐานผู้ติดตามอินสตาแกรม ช่องทางที่เธอใช้โพสต์เชิญชวน ที่มีถึง 112 ล้านคน แต่ก็ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าจับตาอย่างมาก และแสดงให้เห็นว่าผู้มีชื่อเสียงยังสามารถเป็นแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจการเมืองได้อยู่

การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ลงทะเบียนอายุน้อยครั้งนี้ มากกว่าทุกกลุ่มอายุรวมกัน เมื่อพิจารณาจากช่วงเวลาเดียวกัน โดยใน 48 ชั่วโมงนั้น ชาวอเมริกันที่อายุเกิน 30 ปี ลงทะเบียนทั้งสิ้น 64,000 คน ซึ่งเทนเนสซีถือเป็น 1 ใน 14 รัฐที่ปิดการลงทะเบียนไปเมื่อวานนี้ (9 ต.ค.) และจากข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่า 8 วันแรกของเดือนตุลาคมนี้ มีผู้ลงทะเบียนมากกว่าทุกเดือนที่ผ่านมา โดยในเดือนนี้มีชาวเทนเนสซีลงทะเบียนเกินกว่า 5,000 คน เพิ่มจากเดือนที่แล้วถึงเท่าตัว และทำให้เทนเนสซีกลายเป็นรัฐที่มีตัวเลขผู้ใช้สิทธิ์อันดับ 9 นับตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย ขณะที่ เท็กซัสเป็นรัฐที่มีการลงทะเบียนเลือกตั้งมากที่สุดเดือนนี้

ล่าสุด มีคนไปถาม นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถึงการที่สวิฟต์ออกมาพูดถึงการเมืองเป็นครั้งนี้เช่นนี้ ซึ่งนายทรัมป์ก็ตอบว่า เขาชอบเพลงของสวิฟต์น้อยลง 25 เปอร์เซ็นต์แล้ว และยังระบุด้วยว่าศิลปินสาวไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับ ส.ว. แบล็กเบิร์น ที่เธอวิพากษ์วิจารณ์ เลยแม้แต่น้อย 

ขณะที่ เว็บไซต์ของนิตยสารฟอร์จูนรายงานว่า แฟนเพลงของสวิฟต์บางคนออกมาต่อต้านการสนับสนุนทางการเมืองของเธอ โดยที่ผู้สนับสนุนฝ่ายรีพับลิกันสุดโต่งบางคนนำสินค้าของนักร้องสาว เช่น ซีดีและโปสเตอร์ มาทำลาย ไม่ต่างจากเมื่อครั้งที่ โคลิน เคเปอร์นิก นักอเมริกันฟุตบอลอาชีพ ผู้คุกเข่าขณะร้องเพลงชาติจนทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาตำหนิอย่างรุนแรง ได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ไนกี้ ทำให้ฝ่ายขวาสุดโต่งออกมาทำลายสินค้าไนกี้ที่มีอยู่เช่นกัน

ในกรณีของไนกี้นั้น แม้จะถูกกระแสโจมตีบ้าง แต่ยอดขายก็ยังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง หลังจากว่าจ้างเคเปอร์นิก และถือว่าได้รับ free publicity หรือการโฆษณาฟรีทางอ้อมเป็นมูลค่า 43 ล้านดอลลาร์ หรือ 1,400 ล้านบาท จากการที่คู่แข่งของไนกี้ และผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันเอ่ยถึงแคมเปญเคเปอร์นิกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อกลับมามองในกรณีของสวิฟต์ ก็ไม่น่าจะแตกต่างกัน นั่นคือ การต่อต้านการสนับสนุนพรรคการเมืองของเธอ ไม่น่าจะส่งผลต่ออาชีพของเธอเลย ตรงกันข้าม จะเป็นโฆษณาทางอ้อมให้กับพรรคเดโมแครตเสียด้วยซ้ำ

สุดท้ายแล้ว ต้องกลับมาโฟกัสกันที่สิทธิของสวิฟต์ในฐานะประชาชนชาวอเมริกันคนหนึ่ง เพราะแม้ว่าก่อนหน้านี้ เธอเลือกที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองมาตลอด ในฐานะเอ็นเตอเทนเนอร์ที่มีส่วนในการชี้นำสังคมก็ตาม แต่ในฐานะปัจเจกบุคคล เธอมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะกล่าวสนับสนุนบุคคลหรือองค์กรใดก็ได้ แต่นั่นควรได้รับการเคารพและรับฟังจากประชาชนชาวอเมริกันคนอื่น // และแน่นอนว่า ผู้ที่ไม่เห็นด้วย ก็มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์นักร้องสาวเช่นกัน แต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่กฎหมายอนุญาต และต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น