นิวยอร์กเผยว่าปีนี้นักเรียนไร้บ้านสามารถเรียนจบมัธยมได้กว่า 100 คน เป็นตัวเลขที่น่าพอใจและแสดงถึงความอยากพัฒนาตนเองที่ดี
หน่วยงานบริการพลเมืองไร้บ้านในนครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ เปิดเผยสถิติล่าสุดที่ชี้ว่าปีนี้ นักเรียนกว่า 100 คน เรียนจบชั้นมัธยมโดยที่พวกเขาเป็น 'คนไร้บ้าน' ซึ่งในจำนวนนี้หลายคนเลือกเรียกต่อในระดับอุดมศึกษา ในสถาบันหลากหลาย ทั้งมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และมหาวิทยาลัยสโตนี บรุก รองนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กเปิดเผยว่า สถิติดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า คนรุ่นใหม่เข้มแข็งและอดทนต่อความลำบากขนาดไหน
หนึ่งในเจ้าหน้าที่สวัสดิการสังคมนครนิวยอร์กกล่าวกับสื่อมวลชนว่า พลเมืองไร้บ้านตกอยู่ในสถานะไร้บ้านเพราะสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้รายได้ไม่เพียงพอต่อการเช่าที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง โดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างอิงสถานีข่าวท้องถิ่น ระบุว่า หนึ่งในกลุ่มนักเรียนไร้บ้านที่เรียนจบปีนี้กล่าวว่า พ่อของเธอเป็นพ่อเชฟประจำโรงพยาบาล แต่อาชีพดังกล่าวกลับสร้างรายได้ไม่มากพอที่จะจ่ายค่าเช่าบ้าน ครอบครัวของเธอจึงต้องย้ายไปยังศูนย์คนไร้บ้านประจำชุมชนแทน
ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า นครนิวยอร์กมีนักเรียนไร้บ้านมากถึง 114,658 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 1.1 ล้านคน เท่ากับว่าสัดส่วนนักเรียนไร้บ้านอยู่ที่ 1 ใน 10 คน ซึ่งถือว่าสูงจนน่าตกใจ ปีที่แล้ว หน่วยงานศึกษาธิการนครนิวยอร์กลงทุนในโครงการที่พักชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือนักเรียนไร้บ้าน เป็นมูลค่า 12 ล้านดอลลาร์ หรือ 370 ล้านบาท ซึ่งจำนวนนี้รวมถึงการว่าจ้างผู้ประสานงานชุมชนประจำแต่ละโรงเรียน เพื่อให้เข้าถึงนักเรียนที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างทั่วถึงด้วย