พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมงานสัมมนาเรื่อง 'รัฐธรรมนูญปราบโกง จะสัมฤทธิ์ผลได้จริงหรือไม่' ณ ห้องแมจิก 2 ชั้น 2 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กรุงเทพมหานคร วานนี้ (16 พ.ค.61)
บทบาท ป.ป.ช.ตามกฎหมายใหม่ งานจะเข้มข้นขึ้น มีอำนาจที่จะส่งเรื่องร้องเรียนทุจริตให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อได้ ซึ่งจะช่วยลดความหนาแน่นของสำนวน ที่อยู่ในการตรวจสอบของ ป.ป.ช. เนื่องจากตอนนี้มีคดีเก่าตกค้างอยู่จำนวนมาก
โดยขอให้ประชาชนอดทน และรอดูผลการทำงานของ ป.ป.ช. อีก 1-2 ปี ซึ่งมั่นใจว่าหลังจากกฎหมายฉบับใหม่บังคับใช้ เรื่องร้องเรียนที่มีอยู่ในสารบบ ทั้งประเด็นการกล่าวหา จำนวน 1.7 หมื่นเรื่อง และเรื่องที่อยู่ระหว่างไต่สวน 2,700 เรื่อง จะสามารถดำเนินการได้ให้เสร็จได้ภายใต้กรอบระยะเวลา และในอนาคต ป.ป.ช.ก็จะมีอำนาจในการทวงคืนทรัพย์สินในต่างประเทศด้วย
นอกจากนี้ พล.ต.อ.วัชรพล ยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงการตรวจสอบที่มาของนาฬิกาหรู ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องจากขอถอนตัวออกจากกระบวนการตรวจสอบ ทั้งนี้ความคืบหน้าที่ได้รับทราบจากเลขาธิการ ป.ป.ช. ทราบว่า ขอเวลาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอีก 2-3 เดือน เพราะต้องตรวจสอบข้อมูลจากทางต่างประเทศ และต้องตรวจสอบให้สิ้นสงสัยก่อนจะเสนอเรื่องให้ที่ประชุม ป.ป.ช. พิจารณา ทั้งนี้หากไม่ตรวจสอบข้อมูลให้แล้วเสร็จเรื่องอาจถูกตีกลับให้หาข้อมูลใหม่ได้
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว ยอมรับต่อข้อวิจารณ์ของประชาชนที่มองว่าการตรวจสอบล่าช้า พร้อมระบุว่าเป็นข้อดีที่ทำให้ ป.ป.ช. ต้องทำงานอย่างโปร่งใส และรัดกุมมากยิ่งขึ้น ส่วนการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลการตรวจสอบนั้น ตามหน้าที่และรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีกรอบจำกัด ว่า การตรวจสอบเรื่องที่บุคคลถูกตั้งข้อกล่าวหา ให้ถือเป็นความลับทางราชการ หากเผยแพร่ระหว่างที่การตรวจสอบไม่แล้วเสร็จอาจสร้างความเสียหายกับบุคคลได้